โดย…ดลมนัส กาเจ

“ผมเป็นวิศวกรที่มีตำแหน่งเป็นระดับผู้จัดการตั้งแต่อายุ 26 ปี ผมมีเงินเดือนแสนกว่าบาท ปีหนึ่งผมรายได้ล้านกว่า แต่ไม่สามารถที่จะซื้อที่ได้ พอผมออกมาเป็นเกษตรกรปลูกอินทลัม ผมสามารถซื้อที่เพิ่มเป็นหลักร้อยไร่ เพราะผมมีรายได้มากกว่า”

แม้คนส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกว่า การมีอาชีพเป็นวิศวกร ถือเป็นอาชีพที่มีเกียรติ ค่าตอบแทนสูง แต่สำหรับวิศวกรหนุ่ม “อนุรักษ์  บุญลือ” เจ้าของสวนอินทผลิมภาคตะวันตก ที่ ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และประธานกลุ่มผู้ปลูกอินทผลัมในนาม “ดับเบิ้ลยูดีพี” (WDP) ซึ่งเป็นระดับผู้จัดมีเงินเดือนกว่า 1 แสนบาท เดินทางไปดูงานทั่วโลก เขากลับลาออกมายึดอาชีพเป็นเกษตรกรสมัยใหม่ ปลูกอินทผลัม มีโรงงานแปรรูป มีร้านค้า ทำให้เขามีรายได้มากกว่าเงินเดือนของวิศวะกรที่มีหัวโขนเป็นผู้จัดการเสียอีก และเขายืนยันว่าจะไม่หวนกลับไปเป็นวิศวกรอีก แต่ขออยู่ภาคการเกษตรตลอดไป

“ผมเป็นวิศวกรที่มีตำแหน่งเป็นระดับผู้จัดการตั้งแต่อายุ 26 ปี ผมมีเงินเดือนแสนกว่าบาท ปีหนึ่งผมรายได้ล้านกว่า แต่ไม่สามารถที่จะซื้อที่ได้ พอผมออกมาเป็นเกษตรกรปลูกอินทลัม ผมสามารถซื้อที่เพิ่มเป็นหลักร้อยไร่ เพราะผมมีรายได้มากกว่าปีละหลายล้านบาท “ นี่เป็นการยืนยันของวิศวกรหนุ่ม

อนุรักษ์ บอกว่า เมื่อครั้งที่เป็นวิศวกรได้เดินทางไปดูงาน และติดต่องานไปทั่วโลกทั้งเอเซีย ยุโรป อัฟริกา รวมถึงตะวันออกกลาง  ซึ่งไปเห็นสวนอินทผลัม ทั้งที่ตะวันออกกลางแทบไม่มีแหล่งน้ำ โดยเฉพาะอิราเอลปลูกได้ดีมาก มานั่งคิดว่าน่าจะปลูกเมืองไทยได้ จึงพยายามศึกษาสายพันธุ์ เพราะดูข้อมูลแล้ว ทราบว่า มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อน กลายเป็นประเทศที่นำเข้าอินทผลัมจากตะวันออกกลางเป็นอันดับหนึ่งของโลก ถ้าไทยปลูกได้ ต้องมีตลาดแน่นอน

“ผมลองผิดลองถูกมา 7 ปี เต็มๆจนแน่ชัดว่าอินทผลัมกินผลสดสายพันธุ์บาฮี ปลูกได้ดีในประเทศไทย จึงลองปลูกกว่า 20 ไร่ พบว่ามีรายดีกว่าเงินเดือนวิศวกรอีก จึงตัดสินใจลาออก เจ้านายบอกว่า ให้คิดให้ดีๆ และให้ผมเป็นที่ปรึกษาเข้าบริษัทเดือนละ 2 ครั้ง พร้อมบอกว่า ถ้าปลูกอินทผลัมไม่มีทางสำเร็จ แต่ปัจจุบันพิสูจน์ได้ว่าสำเร็จแล้ว ผมก็ให้เจ้าเป็นที่ปรึกษาด้านโรงงาน เพราะตอนนี้ผมมีโรงงานที่เก็บ และแปรรูปอินทผลัมที่มาตรฐานที่สุดในอาเซียน” อนุรักษ์ กล่าว

[adrotate banner=”3″]

ล่าสุดเขาไม่เพียงแต่จะปลูกอินทผลัมอย่างเดียวหากดำเนินกิจการครบวงจร ปลูกเป็นของตัวเอง 130 ไร่ สร้างเครื่อข่าย WDP รวมพื้นที่ปลูกทั้งหมดใน จ.กาญจนบุรี 1,200 ไร่ และมีการเปิดเฟรนไชส์สำหรับการทำน้ำอินทผลัมด้วย (ดูในคลิป)