เริ่มแล้วงาน SIMA ASEAN 2018 กระทรวงเกษตรฯ ร่วมจัดอย่างยิ่งใหญ่ ชูศาสตร์พระราชาผ่าน “โคก หนอง นา โมเดล” ควบคู่นวัตกรรมการเกษตรที่ทันสมัย พร้อมขนสุดยอดเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรโชว์เต็มรูปแบบ เน้นให้เกษตรกรผู้เข้าร่วมงานได้รับประโยชน์และเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างแท้จริง
นายธีระ วงษ์เจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดงาน SIMA ASEAN Thailand 2018 ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชาและนวัตกรรมการเกษตร” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 มิ.ย. 2561 ณ อาคาร 3 และ 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมเป็นเจ้าภาพการจัดงาน SIMA ASEAN Thailand 2018 ร่วมกับสหภาพผู้ผลิตเครื่องจักรกลของประเทศฝรั่งเศส (AXEMA) โดยมี บริษัท อิมแพคเอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจัดงาน ซึ่งจัดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้ง (ตั้งแต่ปี 2558 – 2560) โดยจัดนิทรรศการแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรและเครื่องจักรกลการเกษตร และการสัมมนาถ่ายทอดความรู้ทางการเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตรให้แก่เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถเรียนรู้และนำไปใช้ประโยชน์ สร้างความเข้มแข็งให้ได้เท่าเทียมระดับสากล
สำหรับปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตร โดยสนับสนุนนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปปรับใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร และเชื่อมโยงตลาด มุ่งเน้นให้การพัฒนาด้านเกษตรกรรมของประเทศไทยมั่นคงอยู่บนรากฐานของศาสตร์พระราชาและแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้นจึงได้จัดแสดงนิทรรศการและการจัดสัมมนาภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชาและนวัตกรรมเกษตร” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยในด้านการพัฒนาเกษตรไทยสู่สากล อย่างยั่งยืน
รวมทั้งถ่ายทอดแนวทางการพัฒนาการเกษตรตามศาสตร์พระราชา และเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เรียนรู้นวัตกรรมเกษตร เพื่อนำไปยกระดับการผลิตของตนเอง และสอดคล้องกับความต้องการตลาด เป็นการเสริมสร้างเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง พัฒนาตนเองสู่การเป็น Startup หรือ SMEs ด้านเกษตร ตลอดจนขยายตัวสู่การเกษตรอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลให้การพัฒนาภาคการเกษตรของไทยสามารถก้าวสู่สากลอย่างมั่นคง เพิ่มโอกาสในการแข่งขันจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
ทั้งนี้ ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ 3 ส่วน ได้แก่ 1. การจัดแสดงนิทรรศการ “ศาสตร์พระราชาและนวัตกรรมการเกษตร” เพื่อการพัฒนาเกษตรไทยสู่สากลอย่างยั่งยืน จากหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 12 หน่วยงาน ซึ่งในส่วนของศาสตร์พระราชาจัดแสดงในรูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” ร่วมกับนวัตกรรมเกษตรที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเกษตรกรและผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้และเห็นประโยชน์ของ “โคก หนอง นา โมเดล” อย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นโมเดลที่เกิดจากการนำพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรมาใช้เป็นหลักในการจัดการพื้นที่การเกษตร ดิน น้ำ ป่า คน อย่างสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเกษตรกรสามารถพึ่งพา พัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืน
นายธีระ กล่าวอีกว่า โดยการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้บริหารจัดการน้ำและพื้นที่การเกษตร ผสมผสานกับภูมิปัญญาพื้นบ้าน ควบคู่กับการอนุรักษ์ธรรมชาติ นอกจากนี้เกษตรกร ผู้ประกอบการเกษตร และผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประโยชน์และความรู้อีกมากมาย จากการเห็นตัวอย่างการผลิตจริงจากเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้และผลิตได้เองผ่านนิทรรศการนวัตกรรมเกษตรด้านต่าง ๆ ที่มีความทันสมัย อาทิ
นวัตกรรมที่เกี่ยวกับดิน หรือ Agri – Map Online เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เกษตรกรรู้จักดิน วิธีใช้ประโยชน์ดินในการปลูกพืช นวัตกรรมที่เกี่ยวกับน้ำ เรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมที่ใช้กับน้ำผิวดิน เช่น ฝายชะลอน้ำ พร้อมระบบส่งน้ำเข้า แปลงโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมเพื่อการผลิตทางเกษตร – จัดแสดงชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช ปุ๋ยหมักเติมอากาศ โรงเรือนผลิตพืชสมองกลกับระบบ IOT (Internet of Thing) และมารู้จักกับ Application “รู้จริงเรื่องพืชกับกรมวิชาการเกษตร” นวัตกรรมการแปรรูปเพิ่มมูลค่าผลผลิตเกษตร – แนะนำบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายง่ายที่ทำมาจากเศษวัสดุพืช เครื่องปั่นฝ้ายและกรอเส้นด้ายด้วยสมองกลอัตโนมัติ ซึ่งสามารถช่วยให้เกษตรกรลดระยะเวลาในการปั่นและกรอด้าย การเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว และแผ่นไหมเพื่อผลิตเป็นอาหารสุขภาพและเครื่องสำอาง พร้อมด้วยเครื่องจักรกลเกษตรในกระบวนการแปรรูป
2.การจัดสัมมนา“ศาสตร์พระราชาและนวัตกรรมการเกษตร”ระหว่างวันที่ 7 – 8 มิถุนายน 2561 เวลา 10.00 – 16.00 น. เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี/นวัตกรรมด้านการเกษตร และการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ พร้อมยกระดับทั้งศักยภาพของเกษตรกร และแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร โดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรสามารถเรียนรู้และนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ซึ่งได้คัดสรรหัวข้อสัมมนาที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจจากวิทยากรทั้งภาคธุรกิจเกษตร ภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราว มุมมองและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาวิธีทำการเกษตร ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
[adrotate banner=”3″]
ส่วนแรกการนำเสนอผลงานด้านนวัตกรรมเกษตร โดยมาร่วมเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ อาทิ รู้จักดินด้วยนวัตกรรม Agri – Map, ใช้ปุ๋ยอย่างไร ให้ผลผลิตมีคุณภาพ, เกษตรแม่นยำกับการผลิตข้าวของชาวนา, นวัตกรรมความงามจากข้าวไทย, นวัตกรรมแผ่นโปรตีนจากใยไหมเพื่อผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม, นวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อการผลิตมันสำปะหลัง เป็นต้น รวมทั้งการเสวนาในเรื่องนวัตกรรมเกษตร 4.0 ยกระดับศักยภาพเกษตรไทย อาทิ การผลิตผักคุณภาพในระบบโรงเรือน นวัตกรรมการผลิตยางเพื่อลดต้นทุน และเทคนิคการผลิตพืชอาหารสัตว์คุณภาพสูง (TMR) เป็นต้น
ส่วนที่สองการนำเสนอผลงานศาสตร์พระราชา และการเสวนาศาสตร์พระราชากับการจัดการน้ำที่ยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจาก นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมบรรยายพิเศษเรื่อง “แนวพระราชดำริว่าด้วยศาสตร์พระราชา” พร้อมกับเรียนรู้การใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืนตามแนวทางทฤษฎีใหม่บนผืนดินเดิม, บ้านเศรษฐกิจพอเพียงตามศาสตร์พระราชา, ศาสตร์พระราชากับการพัฒนาข้าวและชาวนาไทย, โครงการอ่างพวงเพื่อการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน, ฝายชะลอน้ำเพื่อการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำและแก้ปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน และร่วมด้วยการเสาวนาฝนหลวงสร้างชีวิต จากอาสาสมัครฝนหลวงดีเด่นระดับประเทศคนแรกของประเทศไทย
3.การจัดบูธแสดงสินค้าและนวัตกรรมเกษตรของเกษตรกร กลุ่มสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกรผู้ประกอบการSMEsและกลุ่มเกษตรกรผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร กว่า 20 บูธ ซึ่งเป็นการแสดงสินค้าที่น่าสนใจโดยคัดสรรนวัตกรรมเกษตรคิดค้นพัฒนาโดยเกษตรกรไทยจากสหกรณ์การเกษตรจากจังหวัดต่าง ๆ เกษตรกรที่ได้พัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็ก โรงเรือนปลูกพืชขนาดเล็กเหมาะกับการเกษตรระดับครอบครัว เครื่องควบคุมรถไถเดินตามบังคับวิทยุแบบไร้คนขับมาจำหน่าย ตลอดจนผลผลิตคุณภาพเยี่ยมจากกลุ่มสหกรณ์การเกษตรภาคต่าง ๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาหารเสริมที่ทำมาจากผลผลิตทางการเกษตร มาจัดจำหน่ายในราคาย่อมเยา
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เข้าชมงานนิทรรศการในงานกว่า 9,000 คนและผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 2,000 หรือ 1,000 คน/วัน โดยเฉพาะเกษตรกร และผู้ประกอบการเกษตร ไม่น้อยกว่า 50% ของผู้เข้าร่วมการสัมมนาภายในงาน SIMA ASEAN Thailand 2018 จะได้รับประโยชน์และเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์จริงมาถ่ายทอดโดยตรง ซึ่งเป็นเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติใช้ในพื้นที่ได้ด้วยตัวเอง พร้อมเปิดโอกาสให้เกษตรกร SME ได้เริ่ม Startup เข้ามามีส่วนร่วมในการเปิดตัวธุรกิจอย่างเต็มตัวสามารถกระจายธุรกิจได้ และนำเอาสุดยอดนวัตกรรม เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรไทย โดยเฉพาะเพื่อยกระดับเกษตรกร ให้ก้าวขึ้นมาเป็นเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ ทำให้ประเทศไทยได้ก้าวสู่การเป็นผู้นำแห่งอาเซียนด้านภาคการเกษตร จึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกร ผู้ประกอบการเกษตร ประชาชนที่สนใจเข้ามาร่วมเรียนรู้ในงาน SIMA ASEAN Thailand 2018 ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชาและนวัตกรรมการเกษตร” ระหว่างวันที่ 6 – 8 มิ.ย. 2561 ณ อาคาร 3 และ 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 09.30 – 18.00 น.” นายธีระ กล่าว