“ออนไอที วัลเลย์” เชียงใหม่ เปิดอาณาจักร 100 ไร่เต็มรูปแบบ หนุนเป็นพื้นที่สร้างสตาร์ตอัพและโคเวิร์กกิ้งสเปซ เดินหน้าอาคาร Creative Park เปิดให้บริการแล้ว ปั้นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ด้านไอที และฟาร์มเกษตรอินทรีย์-วิถีล้านนา ดึงกลุ่มเด็กและเยาวชนจากจีนทำกิจกรรมซัมเมอร์แคมป์กลางปีนี้
นายวิโรจน์ เย็นสวัสดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรซอฟท์ คอมเทค จำกัด ผู้ผลิตซอฟต์แวร์บัญชี และเจ้าของโครงการ Oon IT Valley เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้โครงการออนไอที วัลเลย์ ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ราว 100 ไร่ ริมถนนสันกำแพงสายใหม่-เชียงใหม่ ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มีความคืบหน้าและพร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว โดยยึดคอนเซ็ปต์ให้เป็นเมืองไอที วิถีล้านนา ซึ่งมุ่งพัฒนาขีดความสามารถทางด้านไอทีให้กับ SMEs startup และ tech startup รวมถึงการเป็นพื้นที่ co-working space ด้านวิถีล้านนา มุ่งสร้างสังคมให้เป็นวิถีอยู่ดี กินดี มีสุข เกษตรปลอดสารเคมี มีมูลค่าการลงทุนราว 300 ล้านบาท
โดยขณะนี้การก่อสร้างอาคาร Creative Park ขนาด 3 ชั้น พื้นที่ราว 2,000 ตารางเมตร แล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งรองรับได้ราว 200 คน วางให้เป็นสถานที่ทำงาน ศูนย์ฝึกอบรมสัมมนา และศูนย์เทรนนิ่ง คาดว่าภายใน 5 ปี จะเกิดการสร้างงาน สร้างคนราว 1,000 คน ซึ่งเริ่มมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้ว ทั้งกิจกรรมประชุมสัมมนา ฝึกอบรม และใช้เป็นพื้นที่ทำงาน
พร้อมบริการ – ออนไอที วัลเลย์ จ.เชียงใหม่ โครงการเมืองไอทีวิถีล้านนาที่มุ่งพัฒนาขีดความสามารถทางด้านไอทีให้กับเอสเอ็มอี สตาร์ตอัพ ขณะนี้พร้อมเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งคาดว่าอีก 5 ปี จะเกิดการสร้างงาน-สร้างคนกว่า 1,000 คน
นายวิโรจน์กล่าวว่า ในส่วนของเมืองวิถีล้านนา ได้เริ่มทำโครงการ Farm Food Good Life สร้างพื้นที่ให้เป็นฟาร์มเกษตรอินทรีย์ แบ่งเป็นพื้นที่ทำนา 4 ไร่ ทั้งข้าวไรซ์เบอรี่และข้าวหอมมะลิ และพื้นที่ปลูกผัก-ผลไม้ 6 ไร่ ซึ่งผลผลิตจะป้อนให้กับร้านอาหารภายในโครงการและร้าน Farmer Market ของโครงการ เพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว
สำหรับโครงการก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ตบนพื้นที่ราว 9 ไร่ ขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จในเฟสแรก จำนวน 14 ห้อง พร้อมเปิดให้บริการแล้ว รองรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ลูกค้าของโปรซอฟท์ คอมเทค และกลุ่มสตาร์ตอัพ โดยตามแผนงานในส่วนของโรงแรม-รีสอร์ตจะก่อสร้างทั้งหมด 60 ห้อง ใช้งบฯลงทุน 50 ล้านบาท รวมถึงการก่อสร้างที่พักราคาประหยัดในรูปแบบ coliving space เพื่อรองรับกลุ่มสตาร์ตอัพด้วย
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า อีกด้านหนึ่งต้องการให้พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศึกษาเรียนรู้ด้านไอที วิถีธรรมชาติ เกษตรอินทรีย์ สามารถสัมผัสกิจกรรมต่าง ๆ ได้จริง เช่น พื้นที่ Dutch Farm ราว 15 ไร่ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสไตล์ฟาร์มชนบท ซึ่งมีทั้งม้าแคระที่นำเข้ามาจากอังกฤษ อเมริกา และเนเธอร์แลนด์ แกะ และสัตว์ชนิดอื่นอีกจำนวนมาก โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวและผู้เข้ามาใช้บริการภายในโครงการออนไอที วัลเลย์ ราว 60,000 คน
ล่าสุดขณะนี้โครงการได้รับการติดต่อจากมหาวิทยาลัยในเมืองเซี่ยงไฮ้ ให้ความสนใจนำนักศึกษาและกลุ่มเด็ก-เยาวชนจากจีน เดินทางมาท่องเที่ยวและศึกษาเรียนรู้ในโครงการ ซึ่งเดือนกรกฎาคม 2561 จะมีกลุ่มเด็ก-เยาวชนจากจีนเข้ามาทำกิจกรรมซัมเมอร์แคมป์ จำนวน 120 คน
ที่มา : ประชาติธุรกิจ