สศก.คาดการณ์ภาคเกษตรปี 61ดีกว่าปี 60

  •  
  •  
  •  
  •  

                                สศก.คาดการณ์ภาคเกษตรปี 61ดีกว่าปี 60

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ชี้แนวโน้มดัชนีรายได้เกษตรกรทั้งปี 2561 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2560 เกิดจากผลผลิตของ ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ ชี้แจงลดเอียดกรณีอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิพากษ์ผลงานรัฐ คสช.ทำให้รายได้เกษตรกร ผลผลิตทางการเกษตรลดลง

          ตามที่ ดร.เดชรัต สุขกำเนิด หัวหน้าภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ความผ่านเฟซบุ๊ก Decharut Sukkumnoed ระบุ ข้อมูลดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ และดัชนีผลผลิตการเกษตร จากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จะพบว่า ในยุครัฐบาล คสช. ราคาและผลผลิตมีแนวโน้มลดลงในภาพรวม เมื่อเทียบกับวันแรกที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศเมื่อปี 2557 ราคาสินค้าที่เกษตรกรขายได้ลดลดไปร้อยละ 9 ผลผลิตลดลงไปร้อยละ 9 เช่นกัน รวมแล้วรายได้ของเกษตรกรลดลงไปประมาณร้อยละ 18 โดยเฉพาะในปี 2560 ช่วงแรกราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มว่าจะดี แต่สุดท้ายกลับดิ่งลงต่อเนื่อง โดยขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้รวมทั้งมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ นั้น

           ล่าสุดนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยัน หากพิจารณาในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 พบว่า ดัชนีรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.72 โดยดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและดัชนีราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.89 และ 4.46 ตามลำดับ

           นายวิณะโรจน์ ชี้แจงรายละเอียดว่า ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร และดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ เป็นตัวชี้วัดทางด้านเศรษฐกิจการเกษตรที่สำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์การผลิตและราคาสินค้าเกษตรในหมวดพืชผล หมวดปศุสัตว์ และหมวดประมง รวมทั้งเศรษฐกิจการเกษตรในภาพรวมทั้งหมด

          สถานการณ์การผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญหลายชนิดตั้งแต่ช่วงปี 2556 – 2559 ประสบปัญหาในเรื่องภัยธรรมชาติที่ค่อนข้างรุนแรงทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมมาโดยตลอด โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและทวีความรุนแรงมากขึ้น ครอบคลุมพื้นที่การผลิตทางการเกษตรเป็นวงกว้างในภาคเหนือ ภาคตะวันเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศ ทำให้ปริมาณน้ำใช้การได้ในเขื่อนหลักต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์น้อยมาก มีไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกพืช ส่งผลให้ผลผลิตพืชเศรษฐกิจหลักหลายชนิด อาทิ ข้าวนาปรัง พืชไร่ และผลไม้ต่าง ๆ ได้รับความเสียหายอย่างมากและมีผลผลิตต่อไร่ลดลง

[adrotate banner=”3″]

         อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การผลิตสินค้าเกษตรตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2559 เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากปัญหาภัยแล้งคลี่คลาย โดยการผลิตทางการเกษตรได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติในปี 2560ในส่วนของราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ในช่วงปี 2555 – 2560 ค่อนข้างผันผวนและมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสินค้าเกษตรหลายชนิดต้องพึ่งพิงการส่งออกเป็นสำคัญ อาทิ ยางพารา มันสำปะหลัง ไก่เนื้อ และกุ้งขาวแวนนาไม

         ดังนั้น ปัจจัยหลักที่กำหนดราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศจึงเป็นปัจจัยทางด้านภาวะเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศคู่ค้าที่สำคัญซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องราคาข้าวที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากส่วนหนึ่งถูกกดดันมาจากสต็อกข้าวของรัฐบาลที่มีปริมาณมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงปลายปี 2560 สามารถระบายสต็อกข้าวได้หมด ส่งผลให้ราคาข้าวเริ่มปรับตัวดีขึ้น

              จากปัญหาผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มลดลง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการดำเนินนโยบายและมาตรการด้านการเกษตรต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง อาทิ ดำเนินการส่งเสริมและปรับเปลี่ยนผลผลิตให้เกษตรกรได้รับรู้และตัดสินใจที่จะผลิตตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก หรือ Agri-Map ผ่าน ศพก. 882 ศูนย์ และใช้ตลาดนำการผลิตในรูปแบบการรวมกลุ่มแปลงใหญ่ พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ โรงานแปรรูป และร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนโยบายและมาตรการเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากมากขึ้น

          สำหรับดัชนีรายได้เกษตรกรในปี 2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.97 เมื่อเทียบกับปี 2559 ซึ่งเป็นผลจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.87 ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ลดลงร้อยละ 2.74 โดยเมื่อพิจารณาถึงรายได้เกษตรกรในแต่ละหมวดสินค้า พบว่า หมวดพืชผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.42 โดยรายได้เกษตรกรมาจากสินค้าพืชสำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปรัง ยางพารา อ้อยโรงงาน ทุเรียน และมังคุด ขณะที่รายได้เกษตรกรในหมวดปศุสัตว์ ลดลงร้อยละ 4.03 เนื่องจากผลผลิตสินค้าปศุสัตว์หลัก ทั้งไก่เนื้อ สุกร และไข่ไก่ ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาสินค้าปศุสัตว์ส่วนใหญ่อ่อนตัวลง และหมวดประมง (กุ้งขาวแวนนาไม) ลดลงร้อยละ 1.66

          หากพิจารณาในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 พบว่า ดัชนีรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.72 โดยดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและดัชนีราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.89 และ 4.46 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ดัชนีรายได้เกษตรกรลดลงร้อยละ 5.62 โดยดัชนีผลผลิตสินค้าสินค้าเกษตรขยายตัวชะลอลงจากช่วงครึ่งแรกของปี อยู่ที่ร้อยละ 2.97 ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรหดตัวร้อยละ 9.61

              แนวโน้มดัชนีรายได้เกษตรกรทั้งปี 2561 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2560 จากผลผลิตสินค้าเกษตรสำคัญที่เพิ่มขึ้น อาทิ ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพอากาศและยังมีน้ำต้นทุนเหลือมากพอสำหรับการทำเกษตรจากการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การเพาะปลูกทำได้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับการดำเนินนโยบายและมาตรการด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง

 โดยปี 2561 เน้นการดำเนินการเป็นทีมบูรณาการทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกรได้ครบทุกด้าน รวดเร็ว และทันต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น ส่งผลดัชนีรายได้ภาคเกษตรในปีหน้ายังคงขยายต่อเนื่อง

ที่มาข้อมูล : ข่าวทำเนียบรัฐบาล