พบช่องทางใหม่ตลาดยางไทย “โตคอม” จะเปิดสินค้าตัวใหม่ “TSR”

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯ ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง บุก “โตคอม”  เจรจาหาเพื่อหาแนวทางขยายตลาดยางไทย พบช่องทางใหม่ เดือนตุลาคม 2561 โตคอม จะเปิดการค้าขาย สินค้ายางตัวใหม่ชนิด TSR จะใช้ราคา FOB ของประเทศไทยในการ Trade  คาดว่าจะทำให้ปริมาณการค้าและการใช้ยางมีเพิ่มมากขึ้น  เล็งอีกทางเข้าพบบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ และรองเท้ากีฬาขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อขยายปริมาณการใช้ยางพาราไทยด้วย

            นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ Mr.Mitsuhiro Onosato , Executive Officer และผู้บริหารระดับสูงตลาดซื้อขายล่วงหน้าโตเกียว (Tokyo Commodity Exchange: TOCOM)  หรือโตคอม พร้อมด้วย นายชลธิศักดิ์ ชาวปากน้ำอัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายการเกษตร ประจำกรุงโตเกียว ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า สาระสำคัญที่หารือร่วมกับโตคอมในครั้งนี้ ประเด็นหลัก คือ ฝ่ายไทยได้ชี้แจงและเน้นย้ำการดำเนินมาตรการจำกัดการส่งออกยางพาราของไทยอย่างจริงจัง และมาตรการการกระตุ้นการใช้ยางพาราในประเทศ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมแจ้งว่าเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว และอัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายการเกษตร จะเข้าพบกับบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ และรองเท้ากีฬาขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อขยายปริมาณการใช้ยางพาราไทย 

[adrotate banner=”3″]

            นอกจากนี้ ทางโตคอมยังพร้อมที่จะช่วยเผยแพร่ข้อมูลสินค้ายางพาราของไทย ให้ผู้ซื้อขายในตลาดโตคอมทราบ ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงโตเกียว เป็นหน่วยงานกลางในการให้ข้อมูลข่าวสารทางการของฝ่ายไทยกับโตคอม และยินดีที่จะช่วยเฝ้าระวังและติดตามการผันผวนของราคายางในตลาด (Market Monitoring) อย่างสม่ำเสมอ  ทั้งนี้ หากพบมาตรการที่ผิดปกติจะรีบแจ้งเตือนมายังฝ่ายไทยทันที

             ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือนตุลาคม 2561 โตคอมมีกำหนดเปิดการค้าขาย (Trade) สินค้ายางชนิด TSR (ยางแท่ง)ซึ่งนับเป็นสินค้าตัวใหม่ในตลาดโตคอม และจะใช้ราคา FOB ของประเทศไทยในการ Trade  โดยคาดว่าจะทำให้ปริมาณการค้าและการใช้ยางมีเพิ่มมากขึ้น และน่าจะส่งผลที่ดีต่อราคายางในตลาดโลก  ซึ่งจะขอเข้าชี้แจงและหารือกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และสมาคมยางพาราไทยในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้  โดยสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงโตเกียว จะได้เป็นผู้ประสานรายละเอียดต่อไป