โดย…นายอุทัย สอนหลักทรัพย์
เมื่อวันที่1เมษายน 2562 เราใด้มีการประชุมเครือข่ายการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)ระยองและในที่ประชุมใด้สรุปผลการประชุม คือ
1.การที่ราคายางมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงนี้เพราะว่าในระยะนี้ยางผลัดใบจึงต้องหยุดกรีดยาง ทำให้ยางขาดตลาดราคาจึงขยับขึ้น ดังนั้นทางเครือข่ายจะต้องหาแนวทางรองรับเมื่อราคายางตกต่ำจะต้องทำอาชีพเสริมโดยแบ่งเป็น แนวทาง
แนวทางที่หนึ่ง คือต้อฝงเพิ่มมูลค่ากลางน้ำ อาทิ นำยางสด ยางก้อนถ้วย ยางแผ่นดิบไปแปรรูป และแนวทางที่สองคือสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางโดยรวมกลุ่มกัน และสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่ม และอีกแนวทางหนึ่งเษตรกรจะต้องเตรียมความพรัอมในการโค่นยางเก่าปลูกแทนยางใหม่
ถึงเวลาครับ ที่ควรลดจำนวนลงเหลือ 40 ต้น/ไร่ ในพื้นที่15ไร่ ควรขุดสระ1ไร่เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมูหลุม ภายใน 2 ปีแรก ปลูกพืชแซมยางและปลูกพืชร่วมยางเป็นการปลูกแทนแบบที่ 5 ปลูกยางแบบผสมผสาน ซึ่งเกษตรกรจะต้องทำแผนเสนอ กยท.โดยเสนอโครงการเศรษกิจพอเพียง
2.เรื่องการจัดตั้งตลาดกลางยางพาราในภาคตะวันออกซึ่งตามที่ประชุมเมี่อ1มีนาคม 2562 วาระที่4ได้มีมติแล้วให้นำตลาดกลางยางพาราภาคตะวันออก โอนให้ กยท.โดยใม่ต้องเสียงบประมาณที่ประชุมมอบให้ประธานไปประสานงานกับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
3.ในการจ่ายปุ๋ยในปี 2562 ที่ประชุมมีมติให้เครือข่ายเกษตรกรร่วมกับ กยท.บริหารจัดการโดยที่ผ่านมาเกษตรกรรับปุ๋ยใม่ตรงเวลา ล่าช้ามากปุ๋ยใม่มีตุณภาพ ดังนั้นมติที่ประชุมให้เครือข่ายเกษตรกรร่วมกับ กยท.ระยองเป็นผู้จัดหาปุ๋ยให้มีคุณภาพราคาถูกและตรงเวลาโดยจัดแต่งตั้งกรรมการทุกอำเภอเป็นกรรมการเพื่อการต่อรองราคาและตรวจสอบคุณภาพ
ทั้งหมดนี้ที่เราคุยกันและต้องทำให้ได้ครับ!