ธ.ก.ส. เดินหน้าปฏิวัติเกษตรกรรมไทย  เปิดให้ประชาชนร่วมนำเสนอนวัตกรรม ชิงเงินรางวัลรวม 8.4 แสนบาท

  •  
  •  
  •  
  •  

ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์

ธ.ก.ส. เดินหน้าปฏิวัติเกษตรกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ ” BAAC Hackathon and Incubator, Agricultural Revolution”  เปิดโอกาสให้พนักงาน ธ.ก.ส. นิสิต นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป ร่วมแสดงความคิดสร้างสรรค์ หวังพัฒนานวัตกรรม ภายใต้โจทย์ 4  หัวข้อ “ข้าวไทยในตลาดสากล-เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม-การเกษตรเพื่ออาหารสุขภาพ -ห่วงโซ่อุปทานการเกษตร” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 840,000 บาท

       นาย ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนางานนวัตกรรมโดยสนับสนุนการขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมขององค์กรและนวัตกรรมทางการเกษตร เพื่อนำไปพัฒนา ต่อยอดให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่ภาคเกษตรกรรมจึงได้ดำเนินโครงการ “BAAC Hackathon and Incubator, Agricultural Revolution หรือ ปฏิวัติเกษตรกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน” เพื่อสร้างค้นหา และพัฒนานวัตกรรมที่จะไปตอบโจทย์กับคำถามที่ว่า ทำไมเกษตรกรบางคนทำการเกษตรมาทั้งชีวิต แต่ก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามขีดความยากจนได้สักที

    ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรและเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลภายนอก ทั้งนิสิต นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป ที่สนใจได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดสร้างสรรค์และแสดงความสามารถในการพัฒนาผลงานนวัตกรรมในลักษณะตัวต้นแบบจริงที่ใช้เวลาในการสร้างน้อยที่สุด (Minimum Viable Products : MVP)

      โจทย์สำคัญที่ ธ.ก.ส. กำหนดในการพัฒนานวัตกรรม ประกอบด้วย 4หัวข้อ ได้แก่ข้าวไทยในตลาดสากล– สรรหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะสามารถพัฒนาและปรับปรุงข้าวของไทยให้มีคุณภาพและมีมูลค่าเทียบเท่ากับตลาดสากลได้  เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม– ร่วมกันหาทางปรับตัวและรับมือเพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทยอยู่รอดได้ภายใต้การเปิดการค้าเสรี  การเกษตรเพื่ออาหารสุขภาพ – มองหาแนวทางการปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มของผู้บริโภคในอนาคตที่ใส่ใจเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นแล ะห่วงโซ่อุปทานการเกษตร– ค้นหาแนวทางพัฒนาระบบธุรกิจเกษตรซึ่งทำให้ทุกกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่การเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้ได้รับผลประโยชน์โดยทั่วกัน

     โครงการดังกล่าวได้คัดเลือกผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากจำนวนผู้เข้าสมัครกว่า 90 ทีม ที่ได้เสนอ
แนวนวัตกรรมตามโจทย์ที่กำหนด มาเฟ้นหาทีมที่โดดเด่นจำนวน 18 ทีม เพื่อมาร่วมทำกิจกรรมในรอบHackathon  ในระหว่างวันที่ 23 – 24 ตุลาคม 2564 เพื่อร่วมทำความรู้จักกับทีมนวัตกร พร้อมตอบคำถามเชิงลึก แบ่งปันประสบการณ์ ปัญหาที่พบ และจุดมุ่งหมายหลักของ ธ.ก.ส. รวมถึงค้นหาความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การออกแบบนวัตกรรมเพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการของ ธ.ก.ส. และตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด จากนั้นจะคัดเลือกจาก 18 ทีม เหลือ 9 ทีม เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในรอบ Incubator เพื่อนำแนวคิดนวัตกรรมมาจัดทำต้นแบบจริง โดยมีพนักงาน ธ.ก.ส. เข้าร่วมกับแต่ละทีมเพื่อให้คำแนะนำและร่วมพัฒนา และเข้ารับการเพิ่มศักยภาพในกิจกรรม Bootcamp

      จากนั้นนำเสนอนวัตกรรมต่อคณะกรรมการเพื่อค้นหาผู้ชนะในรอบ Demo Day ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 โดยรางวัลชนะเลิศในรอบ Demo Day เงินรางวัลมูลค่า 200,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ  รางวัลรองชนะเลิศ เงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท จำนวน 2 รางวัล สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบ Incubator จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท และทีมที่ผ่านเข้ารอบ Hackathon จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 5,000 บาท

    นายธนารัตน์ กล่าวอีกว่า การจัดโครงการฯ ในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นของ ธ.ก.ส. สู่การเป็นศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตร โดยมุ่งต่อยอดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ นำมาสู่การสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มทางการเกษตร ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนเชื่อมโยงเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากเครือข่ายภายนอกเพื่อนำไปสู่การปฏิวัติภาคเกษตรของประเทศให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป.