องค์กรเกษตรแห่งเยอรมัน (DLG) และ วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค ผู้จัดงาน AGRITECHNICA ASIA 2020 แถลงเปิดตัว 2 งานใหม่ล่าสุด เพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเกษตรทั้งในไทยและภูมิภาคเอเชีย กำหนดจัดงานทั้งสอง ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์สำคัญในการช่วยผลักดันการพัฒนาภาคเกษตร โดยมุ่งเน้นวิธีแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์การทำเกษตรด้วยเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) และเกษตรดิจิทัลสำหรับเกษตรกรในภูมิภาคโดยเฉพาะ
ภายในงาน AGRITECHNICA ASIA Live 2019 จะมีการสาธิตเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งงานนี้จะถูกจัดขึ้นใกล้กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2562 และ “Agrifuture Conference & Exhibition” งานประชุมและงานแสดงเทคโนโลยีการเกษตรแห่งอนาคต มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2562 ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Jens Kremer รองกรรมการผู้จัดการ DLG service กล่าวว่า “งาน AGRITECHNICA ASIA ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ถือเป็นความสำเร็จของ AGRITECHNICA งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นในประเทศเยอรมนีทุกๆ 2 ปี ปัจจุบัน งาน AGRITECHNICA ASIA จัดมาแล้วถึง 3 ครั้ง และก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการทำเกษตรแบบครบวงจรตั้งแต่ก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรจนถึงหลังการเก็บเกี่ยว และเป็นที่มาของการจัดสองงานล่าสุดปลายปีนี้ ขึ้นในประเทศไทยและพม่า เสมือนเป็นงานแสดงเทคโนโลยีเกษตรและงานประชุมนานาชาติที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะทางและนำเสนอเนื้อหานวัตกรรมจากเทคโนโลยีชั้นสูงที่ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบมาจากต่างประเทศถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านงานที่จัดขึ้นครั้งนี้”
Jens Kremer ยังย้ำอีกว่า “ภายในงานนี้จะเติมเต็มความรู้เรื่องการทำเกษตรแม่นยำสูง เช่น การเกี่ยวข้าว ตัดอ้อย ปลูกข้าวโพด รวมไปถึงการนำเสนอการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรหลายประเภทที่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะทาง ซึ่งงาน AGRITECHNICA ASIA 2020 ก็จะนำเสนอเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างเต็มรูปแบบด้วย”
Heiko M. Stutzinger กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีเอ็นยูเอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีมากที่บริษัท วีเอ็นยูฯ ได้ลงนามร่วมมือกับองค์กรเกษตรแห่งเยอรมัน เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งผลลัพธ์ได้ประจักษ์แล้วว่า พวกเราทำงานร่วมกันไม่ใช่เพียงแค่ต้องการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรทั่วไป แต่จัดงานเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับความต้องการในบางกรณีของแต่ละพื้นที่ด้วย”
Agrifuture Conference & Exhibition ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
งานประชุมและงานแสดงเทคโนโลยีเกษตรแห่งอนาคต Agrifuture Conference & Exhibition กำหนดจัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโลกธุรกิจการเกษตรสมัยใหม่ ในยุค Digital Disruption เป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ โดยตั้งเป้าเรียนเชิญผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,200 คนจากทั่วภูมิภาคเอเชีย ตั้งคอนเซปท์การจัดงานที่มุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้ผ่านงานประชุมนานาชาติที่มีการงานจัดนิทรรศการแสดงสินค้า และการเชื่อมต่อเครือข่ายทางธุรกิจ ที่เกษตรกร ผู้ประกอบการค้าและผู้รับจ้างให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตร เจ้าของบริษัท เจ้าของสวน/ไร่ ตัวแทนจำหน่าย สหกรณ์เกษตร นักวิจัย นักวิชาการเกษตร นักวิศวกรรมเกษตร และนักวางแผนและพัฒนานโยบายภาครัฐ จะเป็นกลุ่มที่เรียนเชิญให้เข้าร่วมงานในครั้งนี้
ในวันแรกของการประชุมจะเรียนเชิญผู้นำด้านการผลิตและซื้อขายสินค้าเกษตรมาบรรยายใน 2 หัวข้อหลัก 1. แนวโน้มการเติบโตของผลผลิตทางการเกษตรในตลาดโลกและภูมิภาคต่างๆ (Global & Regional Crop Markets) 2. เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) โดยเน้นไปที่เกษตรดิจิทัล ได้แก่ การทำเกษตรแม่นยำสูง ดาวเทียมเพื่อการเกษตร การวางแผนจัดการพื้นที่และวางระบบน้ำ โดยใช้เทคโนโลยี IoT การพัฒนาเมล็ดพันธุ์และดิน การตรวจสอบย้อนกลับ และเครือข่ายการเก็บข้อมูล การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูปและสร้างแบรนด์ เพื่อขยายสู่ตลาดสุขภาพและความงาม รวมถึงเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ในขณะที่วันที่สองนั้นจะมุ่งเน้นในส่วนของ “การบริหารจัดการการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงการจัดการทางการเงินและต้นทุนการผลิต (Mechanization & Financial Management)” โดยคาดหวังว่างานแสดงเทคโนโลยีการเกษตรขึ้นสูงที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะมีผู้ประกอบการกว่า 30 ราย ที่จัดแสดง Disruptive Technology ของการทำเกษตรในอนาคต
AGRITECHNICA ASIA Live ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า
การจัดงาน AGRITECHNICA ASIA Live ประเทศพม่า คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 1,000 ราย จากพื้นที่โดยรอบ ซึ่งเป็นจุดภุมิศาสตร์ที่ธนาคารโลกให้กองทุนสนับสนุนโครงการการพัฒนาภาคเกษตร โดยเน้นไปที่การผลิตข้าวตลอดทั้ง 2 วันที่จัดงาน โดยมีเจ้าภาพร่วมการจัดงาน ได้แก่ สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (International Rice Research Institute: IRRI) สหพันธ์ข้าวเมียนมา (Myanmar Rice Federation) ธนาคารโลก (World Bank) กรมเกษตรกลวิธาน (Agricultural Mechanization Department) ภายใต้กระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และการชลประทานแห่งประเทศพม่า
เช่นเดียวกับงาน Mechanization Field Day ที่ถูกจัดขึ้นในประเทศพม่าเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้ความร่วมมือจาก IRRI โดยการจัดงานครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกร ผู้ประกอบการค้าและให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตร สมาชิกกลุ่มสหพันธ์ข้าวเมียนมา นักวิจัย นักวิศวกรรมเกษตร และช่างเทคนิค รวมถึงผู้ตัดสินใจ และผู้กำหนดนโยบายภาครัฐ ภายในงานจะมีการสาธิตเครื่องจักรกลการเกษตรพร้อมงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันแรกและการสัมมนาในวันที่สอง
Katharina Staske ผู้จัดการโครงการ AGRITECHNICA ASIA ของ DLG กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการจัดงานใหม่นี้ มีการเชื่อมโยงกับการจัดงาน AGRITECHNICA ASIA 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2563 ในกรุงเทพฯ ด้วยเครือข่ายเกษตรกรระหว่างประเทศ ที่เราพัฒนาและขยายความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา การทำงานร่วมกับองค์กรและผู้เชี่ยวชาญภาคเกษตร ได้สร้างจุดแข็งให้งานทั้ง 2 งาน ที่มุ่งเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และสร้างโอกาสการมีส่วนร่วมและอภิปรายแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งงานนี้จะเป็นกิจกรรมพิเศษที่นำกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกทั่วภูมิภาคเอเชียและประเทศไทย ที่มีความต้องการแสวงหาความรู้และมีเป้าหมายที่จะยกระดับธุรกิจเกษตรท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ก้าวสู่ยุคดิจิทัล”
DLG มีวิสัยทัศน์ที่จะสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอาหารและสินค้าเกษตร
DLG เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการเกษตรและอาหาร ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 โดยกลุ่มวิศวกร นักประพันธ์ และผู้นำองค์กรอย่าง Max Eyth ซึ่งเชื่อมั่นว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมและการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตรมีผลกระทบโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาภาคเกษตรกรรม ที่ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาภาคเกษตรจนถึงปัจจุบันนี้
งาน AGRITECHNICA ASIA Live ที่จัดขึ้นใหม่นี้ไม่เพียงแต่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของ DLG ในการถ่ายทอดความรู้ข้ามเขตภูมิภาค แต่ยังบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ตามยุทธศาสตร์ในการพัฒนาข้าวของพม่า ที่ต้องการเป็นประเทศที่มีความมั่นคงด้านอาหาร และมีเกษตรกรรายย่อยที่ทำรายได้เป็นสามเท่าของครัวเรือน และรายได้ที่ได้จากการผลิตข้าวจะส่งผลให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งมุ่งมั่นที่จะเป็นฐานการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน โดยใช้วิธีการจัดการปัจจัยการผลิตที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตและผลกำไรจากการผลิตข้าวให้สูงขึ้น และตั้งเป้าว่าจะประสบความสำเร็จตามรากฐานที่วางไว้ภายในปี 2573
AGRITECHNICA ASIA จัดโดย DLG และ วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค ซึ่งงาน Agritechnica ถือต้นแบบการจัดงานที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดขึ้นทุก 2 ปี ณ เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งผู้จัดงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Agritechnica กำหนดจัดงาน “AGRITECHNICA ASIA Live” และ “Agrifuture – Prepare Yourself for Tomorrow’s Agri-Business” รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับงานนี้ได้ที่
http://www.agritechnica-asia.com/ata-Live-2
http://www.agritechnica-asia.com/agrifuture-conference .
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ติดต่อ คุณแสงทิพ เตชะปฏิภาณดี โทร. 02-6700900 ต่อ 122 | อีเมล์ Saengtip.won@vnuexhibitionsap.com