หมายเหตุ– มีเรื่องเศร้าในวงการสมุนไพรไทยอีกแล้ว เราทะเลาะยังไม่เลิกจะปลูกกระท่อม ได้หรือไม่ ทำให้ฝรั่งอเมริกาเอากระท่อมเป็นเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตั้งชื่อว่า”กระท่อมไทย” เว็ป medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพของคนรุ่นใหม่ และ เพจ sasook เสนอข่าวนี้อย่างน่าสนใจ
ผู้สื่อข่าวกองบรรณาธิการ www.medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพของคนรุ่นใหม่ และ เพจ sasook รายงานว่า ขณะที่บ้านเรากำลังจะมีปัญหาเรื่องมาตรฐาน และกฎระเบียบหมอพื้นบ้าน ขอบเขต การให้ความรู้เรื่องสมุนไพรในทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ที่ปัจจุบันกระแสข่าวนำเอามาตรฐานทางวิชาชีพไปกำหนดบรรทัดฐาน ซึ่งสมุนไพรที่ผ่านการวิจัย และ มีมานานมาก กลับไม่ได้การรับรอง
หากพูดถึงสมุนไพร หลายๆ คนนึกถึง หมอต้อม หรือ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร รอง ผ.อ.โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร หัวหน้าโครงการสาธิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร หลายๆ ครั้ง หมอต้อม หรือ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ได้ต่อสู้เพื่อนำเอาสมุนไพรที่มีการวิจัยเชิงประจักษ์แล้วว่ารักษาได้ เช่น “ใบกระท่อม” ยกขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่าคนไทยรู้จักใช้ใบกระท่อมเป็นสมุนไพรบำรุงกำลังมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยาตอนต้น ลองไปอ่านในหนังสือเล่มล่าสุดที่หมอต้อมแจกในมหกรรมสมุนไพรฯ
ช่วงนี้เราเห็นผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่งที่มีการพูดถึงกันมาก ซึ่งมันคือใบกระท่อมที่นำมาดัดแปลง ผ่านกระบวนการออกมาเป็นสมุนไพร มีขายแล้วที่เมือง Portland, Oregon, USA ทั้งปั๊มน้ำมัน และซุปเปอร์ทั่วไป
ทั้งนี้ ที่ขายได้เพราะเมือง Portland, Oregon, USA อนุญาตให้จำหน่ายกัญชาได้อย่างถูกกฎหมายต่อไปอาจขยายไปจำหน่ายที่รัฐโคโลราโด้และจะรวยมากขึ้นเมื่อขยายสู่รัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นตลาดใหญ่หลายพันล้านดอลลาร์ สำหรับ ราคาแพงน่าดู 60 เม็ดแคปซูล 1,800 บาท ( $56.25 หากเอา 1,800 หารด้วย 32 ) มีทั้งแบบเม็ดและแบบผง สรรพคุณลดความเจ็บปวด และสู้งานเหมือนเป็นยาดีชูกำลัง
ประเทศอื่นนำไปจดทะเบียนกันหมด มีแต่ประเทศเรานี่แหละ ซื้อยาเคมีมากินกันปีละหลายหมื่นล้าน หรือกลัวว่า ถ้าใบกระท่อมถูกกฎหมาย เครื่องดื่มชูกำลังจะขายไม่ออก ผลิตภัณฑ์สมุนไพรใบกระท่อม ใช้คำว่า Thai Kratom ให้เกียรติประเทศเราจริงๆ อธิบายด้วยว่าเป็นสมุนไพรอันน่าทึ่ง ( Remarkable Herbs )
แถมยังบอกว่าปลูกแบบ Organics ด้วย ฝรั่งนี่ชอบนักคำว่าออร์แกนนิกเพราะปลูกไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีเขาห่วงสุขภาพมาก
เมืองไทยช้ามาก เช่นข้าว หอมมะลิใช้คำว่า Jasmine Rice เมื่อมีคนนำไปจดทะเบียน เราก็ใช้ไม่ได้ จึงต้องไปจดใหม่เป็น Thai Hom Mali Rice
สำหรับเราจะผลิตใบกระท่อม และกัญชาเพื่อการส่งออกหรือไม่ ? น่าคิด จะต้องแก้กฎหมายอีกนานแค่ไหน เพราะสอบไปก็บอกว่าอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
แปลกใจ ?? หรือว่า ใบกระท่อม มันไม่มีกระแส ไม่มีคนไปกดดัน จึงทำให้ไม่มีการตัดสินใจ ร่วมพิจารณา เนื่องจากกลัวคำครหา หากยังนำคนกลัว ไปนั่งในตำแหน่งระดับการตัดสินใจ อาจจะเขียนกฎหมายใหม่ ยกระดับหน่วยงานนั้นๆ ขึ้นเป็น หน่วยงานอิสระ ไปเลย แล้วมีกฎหมายห้ามฟ้องร้อง เพราะขนาดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ตอนนี้ยังต้องให้เป็นข่าวก่อนเลย มิอาจไปจับได้ หวั่นเป็นคดีหลังเกษียณ
ตอนนี้ฝรั่งยังนำไปโฆษณาว่า Thai Kratom สังคมไทยควรช่วยกันหาทางออก ในอนาคตอาจใช้แทนกาแฟก็ได้ หรือเครื่องดื่มน้ำดำที่นิยมกันทั่วโลกก็มีส่วนผสมของใบโคคา เพราะฉะนั้นในอนาคตอาจมีเครื่องดื่มกระท่อมเป็นยา เป็นเครื่องดื่ม ที่เราขาดโอกาสพัฒนา
ถึงเวลาที่ ทุกฝ่ายควรนำกระท่อมมาใช้ประโยชน์ทางสมุนไพร การแพทย์แผนไทย มียาหลายอย่างที่เราต้องนำเข้า กระท่อมจะมีบทบาทที่จะนำมาใช้เป็นยา จึงควรพัฒนา กฎหมายยกมาเป็นสมุนไพรควบคุมตาม พ.ร.บ.คุ้มครอง และส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย แบบนี้จะเข้าท่ากว่า ไปรับรองสิ่งที่ไม่ควรรับรอง…เห็นข่าวตอนนี้ มีคนตายทุกวันก็สงสารจริงๆ
ที่มา: https://medhubnews.com