สทนช. นำเสนอความก้าวหน้าการดำเนินงาน SDG 6 ในเวทีความร่วมมือเอเชีย ณ เมืองเจิ้งโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้หัวข้อหลัก “การเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำและอาหารเพื่ออนาคตของเรา” ระบุประสิทธิภาพการใช้น้ำของไทยยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก แต่ระดับความตึงเครียดด้านน้ำอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำคณะจาก สทนช. เข้าร่วมการประชุมระดับสูงว่าด้วยการติดตามความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 6 (SDG 6) ของประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือเอเชีย (High-Level International Seminar on Tracking and Monitoring SDG 6 Progress of Asia Cooperation Dialogue (ACD) Member Countries) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 18 กันยายน 2568 ณ เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลัก “การเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำและอาหารเพื่ออนาคตของเรา” โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) และองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง อาทิ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) UN-Water องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) รวมถึงผู้แทนจากจีน กัมพูชา สิงคโปร์ บังกลาเทศ และ สปป.ลาว เป็นต้น
สำหรับการประชุมครั้งนี้จัดโดย ศูนย์ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและเทคนิคระหว่างประเทศ (International Economic & Technical Cooperation and Exchange Center: INTCE) กระทรวงทรัพยากรน้ำ สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับ FAO และมหาวิทยาลัย North China University of Water Resources and Electric Power
เวทีดังกล่าวเป็นโอกาสสำคัญในการหารือเกี่ยวกับความท้าทายด้านการขาดแคลนน้ำและความก้าวหน้าในการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในประเทศสมาชิก ACD พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำเร็จด้านธรรมาภิบาลน้ำ การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกและนวัตกรรมด้านน้ำและเกษตรกรรม ตลอดจนการกำหนดลำดับความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการติดตามและรายงานผลการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 6 โดยเฉพาะเป้าหมายย่อย 6.4 เรื่องประสิทธิภาพการใช้น้ำ

ในการประชุม เลขาธิการ สทนช. ได้นำเสนอความก้าวหน้าของประเทศไทยในการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) เป้าหมายที่ 6 ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566 – 2580) โดยข้อมูลล่าสุดปี 2566 ระบุว่าประสิทธิภาพการใช้น้ำของไทยยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก แต่ระดับความตึงเครียดด้านน้ำอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
ขณะเดียวกันประเทศไทยยังเผชิญความท้าทายด้านการใช้น้ำภาคเกษตร ความเสื่อมสภาพของโครงสร้างพื้นฐาน ความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รัฐบาลจึงเร่งดำเนินมาตรการสำคัญเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ เช่น การยกระดับระบบชลประทานที่ทันสมัย การส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย การนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ การควบคุมมลพิษและขยายระบบบำบัดน้ำเสีย ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านน้ำ การสนับสนุนทางการเงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ดร.วินัย วังพิมูล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สทนช. ยังได้ร่วมเวทีเสวนาเชิงแลกเปลี่ยนความรู้ (Salon Dialogue) ภายใต้หัวข้อ “มาตรการและความสำเร็จในการดำเนินงาน SDG 6.4 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก” โดยนำเสนอกรณีศึกษาของไทยในโครงการนำร่องที่สร้างผลลัพธ์ชัดเจน เช่น โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบประปาและปรับปรุงคุณภาพน้ำ ในจังหวัดบึงกาฬ ที่ใช้เทคโนโลยีตรวจจับน้ำรั่วและพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดต้นทุนการผลิตน้ำและเพิ่มคุณภาพน้ำให้ประชาชน รวมถึงโครงการส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีชลประทานอัจฉริยะช่วยเกษตรกรบริหารจัดการน้ำได้อย่างแม่นยำ ลดการใช้น้ำและเพิ่มผลผลิต
การเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของไทยในการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ รองรับความมั่นคงด้านน้ำในทุกภาคส่วน และมุ่งเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG 6.4 ภายในปี พ.ศ. 2573 ผ่านความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี