กว่าจะถึงวันนี้เด็กหนุ่มวัย 23  “ธีรภัทร เดชจินดา” ทายาท “ไร่ภักดี”  ปลูกกล้วยหอมทอง 200 ไร่ป้อนเซเว่นฯ

  •  
  •  
  •  
  •  

โดย… หนึ่งฤทัย แพรสีทอง

จากที่เกิดมาในครัวเกษตรกรมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับมีแนวคิดใหม่ๆตามประสาคนนุ่นใหม่ ทำให้วันนี้เด็กหน่มไฟแรงวัยเพียง 23 ปี “ธีรภัทร เดชจินดา” ทายาทเจ้าของสวน “ไร่ภักดี” ที่บ้านเสรีราษฎร์ ม.6 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก สามารถยกระดับของไร่จากเดิมปลูกพืชเศรษฐกิจมาหลายต่อหลายชนิด สุดท้ายจบปลูกกล้วยหอมทองส่งที่เซเว่น อีเลิฟเว่น ในพื้นที่ 200 ไร่ และนำผลผลิตที่ตกเกรดมาแปรรูปทำเป็นผลิตภัณ์กล้วยทอดสุญญากาศส่งขายเซเว่นฯทั่วประเทศตั้งแต่เดือนกันยายน  2566 ที่ผ่านมา 

กว่าจะถึงวันนี้ ธีรภัทร บอกว่า เดิมครอบครัวทำสวนที่ดำเนินสะดวก เพื่อนกลุ่มผู้ปลูกกุหลาบชักชวนขึ้นมาทำสวนที่นี่เนื่องจากเห็นว่าที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ทุกๆเรื่อง คุณพ่อจึงย้ายถิ่นฐานมาที่นี่ในช่วงแรกๆ ปลูกพืชหลากหลาย ทั้งมะนาว พริกไทย จนมาปลูกกล้วยหอมทอง เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว โดยนำหน่อพันธุ์กล้วยมาจากเพชรบุรี ช่วงแรกๆ ก็ปลูกเพียง 30 ไร่ และขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็น 200 ไร่ เต็มพื้นที่ของตัวเองที่มี ผลผลิตเอามาส่งขายที่ตลาดไท ทั้งนี้กล้วยหอมทองจากที่นี่จะมีคุณสมบัติแตกต่างจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด รสชาติกล้วยที่นี่จะอร่อย หวาน เนื้อเหนียว แน่น เปลือกหนาทำให้อายุการวางตลาดนานกว่ากล้วยภาคกลาง 2-3 วัน นับเป็นจุดเด่นที่ทำให้ตลาดชอบกล้วยที่นี่


ด้วยความที่การส่งกล้วยมาขายที่ตลาดขายส่งที่ตลาดไทมีราคาไม่แน่นอนและระยะทางที่ค่อนข้างไกล เขาจึงเกิดแนวคิดหาตลาดที่ใกล้ขึ้น อีกทั้งความได้เปรียบของกล้วยที่พบพระ ทั้งคุณภาพผลผลิตรวมถึงอายุการวางตลาดที่นานกว่ากล้วยแหล่งอื่น จึงคิดว่าอยากส่งผลผลิตกล้วยป้อนตลาดบนอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น จึงหาช่องทางที่จะส่งผลผลิต จนสามารถเข้าถึงเซเว่นได้ เมื่อเจ้าหน้าที่จากเซเว่นเข้ามาตรวจสอบแปลงและคุณภาพผลผลิต แตกต่างจากแหล่งปลูกอื่น ก็รับผลผลิตเข้าเซเว่น เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ป้อนแค่เซเว่นสาขาในเขตภาคเหนือตอนล่างโดยส่งผลผลิตที่คลังเซเว่นนครสวรรค์

จากนั้นจึงเริ่มทำโรงงานแพคกล้วยเล็กๆ ที่หน้าฟาร์ม ช่วงแรกส่งกล้วยหอมทองแค่ 2,000 ผล กล้วยอื่นก็ 100 กว่าแพค เมื่อตลาดขยาย ทำให้กล้วยที่ปลูกเอง 200 ไร่ ไม่เพียงพอ จึงส่งเสริมลูกไร่ปลูกเพิ่ม โดยมีสวนลูกไร่ 500 กว่าไร่ โดยจะมีการวางแผนการปลูกตลอดทั้งปีเพื่อให้สอดคล้องกับตลาด มีทั้งแปลงที่ปลูกแซมในสวนทุเรียน และปลูกกล้วยเดี่ยวๆ เกษตรกรที่ปลูกมีตั้งแต่ 10 ไร่ จนถึง 100 ไร่ ราคารับซื้อกล้วยจะรับซื้อเป็นหวี หวีละ 32 บาท

ชาวสวนจะตัดกล้วยมาเป็นเครือ แล้วมาแยกเป็นหวี กล้วยเกรด เอ ผลมีขนาดใหญ่ จำนวนผล 16 -18 ผลต่อหวี ช่วงที่กล้วยน้อย ราคารับซื้อสูงถึง 40 บาท ในช่วง ก.ค.-ส.ค. กล้วยที่นี่จะไว้กอประมาณ 3 รุ่น ถึงจะรื้อแปลงอย่างรุ่นแรกอายุ 9 เดือน รุ่น 2 อายุ 3-4 เดือน อีก 3-4 เดือนไว้รุ่น 3 ที่นี่มีต้นทุนของดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงจึงทำให้การดูแลต่ำ การดูแลเน้นใส่ปุ๋ยอินทรีย์เป็นหลัก เดือนละครั้ง กอละ 1-2 กก. กล้วยเป็นพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก มีเพียงการตัดแต่งใบกล้วยไม่ให้เยอะเกินไป โดยตัดใบทุก 7-10 วัน ตัดปลีกล้วยออกเมื่อกล้วยแทงสุดปลี ที่นี่จะไม่มีการห่อกล้วยเหมือนแหล่งปลูกกล้วยที่อื่น แต่กล้วยก็ผิวสวยธรรมชาติมาก

ล่าสุดทางไร่ภักดีได้สร้างโรงงานแปรรูปกล้วยเพื่อแก้ปัญหากล้วยล้น กล้วยมีผลขนาดใหญ่เกินไป กล้วยสุกเกินไป รวมไปถึงกล้วยผิวไม่สวย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่ากล้วยสดอีกด้วย โดยแปรรูปเป็นกล้วยทอดสุญญากาศ โดยใช้หม้อทอดสุญญากาศที่ทางไร่สั่งผลิตเองจากโรงงาน ทอดด้วยน้ำมันรำข้าว แล้วมาสลัดน้ำมัน 2 ครั้ง โดยใช้หม้อแรงดันแล้วใช้ปั๊มดูดอากาศออก ทำให้กล้วยทอดสุญญากาศที่ออกมามีสีสวย รสชาติหวานแบบธรรมชาติ และอร่อยมากๆ และผลิตภัณฑ์นี้ได้วางจหน่ายที่เซเว่นทั่วประเทศเมื่อปลายเดือนกันยายน ปี 66 ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภค นับเป็นการแปรรูปที่แก้ปัญหาและเพิ่มมูลค่ากล้วยได้อย่างดีทีเดียว