บริษัทพีเอ็มจีฯ เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ ESG Universe ตั้งพันธกิจเป็นสื่อกลางส่งเสริมความรู้ สร้างโอกาสทางธุรกิจ และสร้างสรรค์กิจกรรมด้านความยั่งยืน เชื่อมโยง “ภาคสังคม-ภาครัฐ-ภาคธุรกิจ” ร่วมขับเคลื่อนประเทศมุ่งสู่ SDGs อย่างสมบูรณ์ จุดประกายความคิดด้วยสัมมนา “พา SME ไทย ไป Universe” กระตุ้น ธุรกิจไซส์กลางและเล็ก ชู ESG เป็นตัวเร่งธุรกิจเชิงรุกและเติบโตแข็งแกร่งในไทยและต่างประเทศ
นางสาวณริณ์ทิพย์ วิริยะบัณฑิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทพีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่พีเอ็มจี ดำเนินกิจการด้านสื่อมวลชนมากว่า 20 ปี ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มโลกที่กำลังมุ่งให้ความสำคัญกับแนวคิดESG : Environment Social Governance เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทฯจึงได้เปิดแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ที่ชื่อว่า ESG Universe โดยเป็นการผนึกกำลังของนักบริหาร นักสื่อสารมวลชน นักวิชาการ รวมทั้งเครือข่ายพันธมิตรองค์กรพัฒนาภาคพลเมืองด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสังคม ร่วมกันเป็นสื่อกลางขับเคลื่อนแนวคิด ESG ในสังคมไทย
โซลูชันตัวช่วยองค์กรธุรกิจขับเคลื่อน ESG
ทั้งนี้แพลตฟอร์ม ESG Universe ประกอบไปด้วย Website และ Social Media หลากหลาย อาทิ Facebook , IG, YouTube , X , TikTok โดยปัจจุบันสามารถเข้าถึง Community ขนาดใหญ่กว่า 5 แสนคน
นอกจากนี้ ESG Universe ยังมีความร่วมมือกับนักวิชาการ องค์กรภาครัฐ และภาคสังคม จัดทำ ESG Solution ที่สามารถช่วยให้องค์กรธุรกิจวางแผนขับเคลื่อน ESG ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วัดผลได้ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรรวมทั้งประเทศและสังคมโลกได้อย่างแท้จริง
แนะธุรกิจปรับตัวสร้างโอกาสใหม่
ด้านนายมงคล ลีลาธรรม ประธานกรรมการบริหารบริษัทพีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ข้อมูลจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCC) ระบุว่า อุณหภูมิโลกเฉลี่ยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่หลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม และช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันราว 1.1 องศา และหากเรายังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำมาในอดีต อีกไม่นานอุณหภูมิโลกก็จะสูงไปถึง 1.5 องศา และหากถึง 1.7 องศา โลกก็จะประสบกับความหายนะ เป็นที่มาให้ทุกประเทศทั่วโลกลุกขึ้นมาร่วมมือกันช่วยลดโลกร้อน
ทั้งนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ คือตัวเร่งที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ทั่วโลกจึงมีควาพยายามกำหนดกฎระเบียบทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดเพดานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปฏิเสธสินค้าที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า ฯลฯ ซึ่งกฎระเบียบเหล่านี้ด้านหนึ่งจะกระทบต่อการส่งออกขององค์กรธุรกิจไทย แต่อีกด้านหากเราสามารถปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง ก็จะเป็นโอกาสเช่นกัน
“การเปิดตัวแพลตฟอร์ม ESG Universe นอกจากจะช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ ESG ในสังคมไทยเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนร่วมกันแล้ว ยังทำหน้าที่ให้ความรู้และช่วยผู้ประกอบการไทย เปลี่ยนผ่านกระบวนการทำงานให้สามารถค้าขายกับสังคมโลกได้ด้วย โดยเริ่มจากการสัมมนา พา SME ไทยไป Universe หลังจากนี้พีเอ็มจีจะร่วมกับองค์กรพันธมิตร จัดสัมมนา ESG ในอุตสาหกรรม Sector ที่สำคัญ เช่น พลังงาน เกษตร และอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง” นายมงคล กล่าว
ถอดรหัส ESG จุดเริ่มต้นความสำเร็จธุรกิจไทย
ด้าน ดร.สุนทร คุณชัยมัง ที่ปรึกษา ESG Universe กล่าวว่า การพัฒนานวัตกรรมสังคม ทำให้เกิดการตระหนักรู้คิดกลับข้างเพื่อคนอื่น จึงค้นพบทางออกใหม่ ESG และ BCG ทำธุรกิจด้วยธรรมาภิบาลมีความรับผิดชอบต่อทุกฝ่าย ทั้งผู้ถือหุ้นและซัพพลายเชนอย่างทั่วถึง ก้าวไปด้วยกันได้
อารดา เฟื่องทอง รองอธิบดี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า ESG- BCG-SDGs เป็นเรื่องความยั่งยืนที่ใครทำคนเดียวไม่ได้ ต้องสร้างการมีส่วนร่วมเป็นพันธมิตร ทุกมิติ ภายหลังจากไทยเป็น 1 ใน 194 ประเทศที่ลงสัตยาบัน ต้องทำตามสัญญาสร้างความยั่งยืนและเคารพกติกาใหม่ของประเทศคู่ค้า
นายโมกุล โปษยะพิสิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มงานกลยุทธ์พัฒนาธุรกิจ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.หรือ SME D BANK ) กล่าวว่า ESG สอดคล้องกับ SDGs ของUN ซึ่งประเทศไทยควรใช้ BCG ขับเคลื่อนเพื่อสร้างความแตกต่าง จากจุดแข็งความหลากหลายชีวภาพ โดยเริ่มต้นจาก G การมีธรรมาภิบาลกำกับดูแลกิจการดี มีความน่าเชื่อถือ ไม่คอร์รัปชัน สร้างภาพลักษณ์ที่ดี จากนั้นส่งต่อไปยังพนักงาน ชุมชน และคู่ค้า เชื่อมโยงกันสร้างสังคมและประเทศชาติที่ดีช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า สิ่งสำคัญของการทำ ESG คือการรู้ How To ทำอย่างไรให้เป็นจริง (Implement) ดังนั้นเราจึงควรมี Checklist ให้ผู้ประกอบการ เข้าไปตรวจสอบเกณฑ์การประเมินว่าขาดในด้านใด ทั้ง เงินทุน องค์ความรู้ และแนวทางการหาทางออกปัญหา พร้อมกับการชี้ช่องทางแนะนำไปยังหน่วยงานที่ให้บริการ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ SMEs และสตาร์ทอัพที่ต้องการทำ ESG, BCG ได้ตรงจุด
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ คือธุรกิจที่มีศักยภาพสร้างความแตกต่างสินค้าไทย ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับ ESG ไทยมีราว 8 หมื่นราย โดยกระจายอยู่ใน 5 สาขาคือ 1.ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 2. อาหารไทย 3. โฆษณา 4.แฟชั่น 5.การออกแบบ
สำหรับการเปิดตัว ESG Universe ในครั้งนี้ เป็นทั้งการสื่อสาร และสร้างความมีส่วนร่วม พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการสร้างความยั่งยืนร่วมกัน