“แม็คโคร x โลตัส” ผนึกพลังเพื่อ SME ไทย ให้เข้าถึงลูกค้า B2B-B2C ผ่านแพลตฟอร์มแห่งโอกาส

  •  
  •  
  •  
  •  

“แม็คโคร” ผนึกกำลัง “โลตัส’ เดินหน้าส่งเสริม SME ไทย ด้วยการเพิ่มโอกาสการแข่งขันในทุกมิติ หวังเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าทั้ง B2B และ B2C ผ่านธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของแม็คโคร โลตัส และเพิ่มโอกาสการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ล่าสุดหนุนผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกร ผ่านแพลตฟอร์มแห่งโอกาส เพื่อสร้างพลังเพิ่มความแข็งแกร่ง

      หลังเข้ามาอยู่ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน การผนึกกำลังของ แม็คโคร x โลตัส เพื่อช่วยเหลือ SME ไทย ก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางสยามแม็คโคร เชื่อมั่นว่า การผนึกกำลังระหว่างแม็คโครและโลตัส จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อน ส่งเสริม SME ไทย ในการพัฒนา เพิ่มโอกาสการแข่งขันในทุกมิติ  ซึ่งจะทำให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย โดยทั้งแม็คโครและโลตัสมีจุดเด่นในด้านเครือข่ายและช่องทางการกระจายสินค้าทั้งที่สาขาเกือบ 3,000 แห่งและช่องทางออนไลน์

      นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจความต้องการของทั้งกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C ซึ่งจะสามารถส่งต่อองค์ความรู้เหล่านี้ให้ผู้ประกอบการ SME พัฒนาสินค้าได้ตรงใจลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนผู้ผลิต SME ผ่านโครงการจับคู่ธุรกิจ SMEs Business Matching ในส่วนกลางและระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐ อาทิ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ สสว.

      นางศิริพร กล่าวอีกว่า นอกจากการสนันสนุนผู้ผลิต SME แล้ว ปัจจุบัน ‘แม็คโคร’ ยังได้เข้าไปสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอีกหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้าปลีกรายย่อยหรือโชห่วย ที่เป็นสมาชิกแม็คโครกว่า 500,000 ราย ผ่านโครงการแม็คโครมิตรแท้โชห่วย ที่ดำเนินงานมาต่อเนื่องกว่า 16 ปี นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรมอีกราว 300,000 ราย

      ทั้งนี้แม็คโครได้จัดตั้ง แม็คโครโฮเรก้าอคาเดมี (MHA) และร่วมกับสมาคมเชฟประเทศไทย ให้องค์ความรู้  จัดเวิร์กช็อปในการบริหารธุรกิจ ลดต้นทุน รวมถึงสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ มีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการร้านอาหารอยู่รอดและมีรายได้ แม้ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้น เรายังสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยอีกมากกว่า 7,500 ครัวเรือน โดยตั้งเป้ารับซื้อสินค้าเกษตรกว่า 230,000 ตันในปีนี้

        “การรวมพลังครั้งนี้ ทำให้ SME มีช่องทางที่ครอบคลุม เพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าทั้ง B2B และ B2C ผ่านธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของแม็คโคร โลตัส และเพิ่มโอกาสการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ที่แม็คโครมีสาขาตั้งอยู่ ซึ่งสินค้าของไทยเป็นที่นิยมอยู่แล้ว โดยปัจจุบัน เราได้พาสินค้า SME ไทย ไปขายยังกัมพูชา และเมียนมา มากกว่า 300 รายการ ในอนาคตยังวางแผนเพิ่มรายการสินค้าจาก SME ไทยในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง” นางศิริพร กล่าว

         ในสส่วน ‘โลตัส’  ให้ความสำคัญกับการสนับสนุน SME และเกษตรกรรายย่อยมาโดยตลอด  อีกทั้งมีแผนงานชัดเจนในการเพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้าเกษตรและสินค้า SME อย่างน้อย 10% ทุกปี เป็นระยะเวลา 5 ปี

     ด้านนางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า โลตัส ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในพันธสัญญาของเราคือการเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ช่วยสนับสนุน SME และเกษตรกรไทย ผ่านช่องทางจำหน่ายของสาขาและช่องทางออนไลน์ รวมถึงพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ ด้วยการจัดอบรมร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน แบ่งปันประสบการณ์ ให้ความรู้ ช่วยยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ และช่วยสนับสนุนด้านพื้นที่ขายสินค้า

        “ในครึ่งปีแรกของปี 2565 โลตัส ได้ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ไปแล้วกว่า 2,500 รายผ่านโครงการ   ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาทางธุรกิจ (Business Matching) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในครึ่งปีแรกจัดกิจกรรมไปแล้ว 4 ครั้ง มีผู้ประกอบการ SME เข้าร่วมเจรจาธุรกิจเพื่อเป็นคู่ค้ากว่า 300 ราย  นอกจากนี้ยังเพิ่มจำนวนเกษตรกรในโครงการรับซื้อผลผลิตตรง (Direct Sourcing) โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางกว่า 1,600 ครัวเรือน และรับซื้อผักและผลไม้จากเกษตรกรไปกว่า 32,000 ตัน เราพร้อมเดินหน้าสนับสนุน SME และเกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งปีหลัง โดยใช้พื้นที่ในสาขาของเราให้เป็น Everyday SMART Community Center ที่เอื้อประโยชน์ในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และโครงการต่าง ๆ” นางสาวสลิลลา  กล่าว