จากเชฟโรงแรมดังสู่ซุ้มอาหารญี่ปุ่น “โดโมะ” ของดี ราคาถูก รสชาติระดับภัตตาคาร

  •  
  •  
  •  
  •  

ดลมนัส กาเจ

   หลังจากที่กอบโกยประสบการณ์วงการทำอาหารญี่ปุ่น จนไต่เต้าสู่เชฟ หรือกุ๊กมือหนึ่งในภัตตาคารหลายแหล่งทั่วกรุงเทพฯ และโรงแรมชั้นนำในยุคนั้น รวมถึงโรงแรมมณเฑียรด้วย ในที่สุด “สุรชัย สมคะเน” ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาเปิดซุ้มอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ “โดโมะ” ( Domo Japan’s food)  ในศูนย์อาหารรินทร์ทอง ย่านถนนรามคำแหง ซอย 203 เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ปรากฏขายดิบขายดี มาตลอดเกือบ 20 ปี แม้แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่ก็ไม่กระทบ ยอดขายได้ในแต่ละวันนับร้อยๆจาน ในเวลาเพียงราว 3 ชั่วโมงเท่านั้น

     สุรชัย บอกว่า เข้าสู่วงการทำอาหารญี่ปุ่นมากว่า 20 ปีแล้ว จากผู้ช่วยในครัว ผู่ช่วยเชฟ หรือกุ๊ก จนมาเป็นกู๊กมือหนึ่งของภัตตาคารญี่ปุ่นหลายแห่ง รวมถึงโรงแรมมณเพียรด้วย จนมั่นใจในฝีมือเองว่าเข้าขั้นแล้ว จึงคิดว่าอยากเป็นเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นของตัวเอง

     กระทั่งศูยน์อาหารรินทร์ทองเปิดจึงเข้ามาจองพื้นที่ โดยเน้นลูค้าชั้นกลาง หรือระดังล่างก็สามารถบริโภคได้เพราะขายในราคาศูนย์อาหาร แต่รสชาตมั่นใจว่าไม่แพ้ภัตตาคารดังเพราะจากประสบการณ์นั้น รู้วิธีในการผลิตอาหารญี่ปุ่นทุกขั้นตอน จะเน้นมากที่สุดคือรเลือกวัตถุดิบต้องมีคุณภาพและสด วันต่อวัน แต่ราคาถูกกว่าภัตตาคารเยอะมีตั้งแต่ตั้ง 80 บาท สูงสุดเป็นซาเซมิขนาดจานพิเศษครึ่งกิโลกรัม ราคาเพียง 400 เท่านั้น

     เขา บอกด้วยว่า ปัจจุบันมีเมนูอาหารญี่ปุ่นกว่า 20 รายการ แต่ปลาดิบหรือซาเซมิจะขายดีที่สุด แม้ว่าในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ก็ยังขายปกติวันละใช้วัตถุดิบปลาแซลมอน 2 ตัวขนาดตัวละ 7 กิโลกรัม และปลาทูน่าอีก เฉลี่ยแล้วในแต่ละวันจะขายได้รับร้อยจาน ในลักษณ์ขายหมดแล้วหมดเลยและหมดทุกวันด้วย

    “ร้านเราจะเปิด 5 โมงเย็น ศูนย์อาหารจะปิด 4 ทุ่ม แต่ ร้านเราบางวันทุ่มครึ่งก็หมดแล้ว ช้าสุดก็ 2 ทุ่มครึ่ง เพราะเรามีลูกค้าประจำอยู่แล้ว อย่างทุกวันนี้คนมานั่งรับประทานได้แล้ววัตถุดิบปลาแซลมอน  3 ตัว เราขายซาเซมิชุดเล็กจานละ 120 บาท จานใหญ่ 180 บาท พิเศษเนื้อปลาครึ่งกิโลกรัม  400 บาทเท่านั้น”  (รายในคริป)