“ช่วงโควิด หลายๆ คนตกงาน แต่ยอดขายเราพุ่งขึ้นมากกว่าเท่าตัว จากเดิมส่งผักให้เซเว่นฯวันละ 6,000 – 8,000 แพ็ค ขยับเพิ่มเป็น 20,000 แพ็คต่อวัน ได้ความช่วยเหลือจากเซเว่นฯ ที่คิดไอเดียทำชุดผักพร้อมปรุง อาทิ ชุดต้มยำ ชุดสุกกี้ ชุดผัดกะเพรา ชุดผักน้ำพริก เพื่อกระตุ้นยอดขาย เพราะลูกค้าบางคนไม่รู้ว่าแต่ละเมนูต้องใส่ผักอะไรบ้าง”
โบราณว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” แม้จะไม่ใช่วลีที่เป็นไปได้กับคนทุกคน แต่เป็นวลีอัมตะนิรันดร์สำหรับคนที่มีตั้งใจจริง และสบช่องทาง ดุจกับหนุ่มใหญ่ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งวัย 36 ปี “มานิตย์ ทิพย์ปิ่นทอง” หรือ วิทย์ ที่ลงจากดอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มาศึกษาด้านช่างจบ ปวส.แต่จิตใจแน่วแน่ว่าจะกลับบ้านเกิดเพื่อปลูกผัก ส่งห้างฯหรือร้านสะดวกซื้อ และแล้ววันนี้ความฝันเป็นจริง เขาสามารถผลิตผักสดส่งร้าน “เซเว่ อีเลิฟเว่น” ถึงวันละ 2 หมื่นแพ็ค ในนามบริษัท สุวรรณ เอิร์ธ จำกัด ตั้งอยู่ย่านคลอง อ.ลำลูกกา 3 จ.ปทุมธานี สร้างรายได้ให้กับตัวเองและเกษตรกรในเครือข่ายถึง 30 คนที่ปลูกผักในพื้นที่กว่า 200 ไร่
มานิตย์ ย้อนไปเมื่อปี 2557 ว่า ทางเซเว่นอีเลฟเว่น มีโครงการทดลองขายผักสด จึงเข้าไปติดต่อขอร่วมโครงการ จากนั้นได้รับการติดต่อกลับ รู้สึกได้เลยว่า “เซเว่นฯ” ไม่ทอดทิ้งผู้ประกอบการรายย่อย และไม่คิดว่าองค์กรใหญ่จะให้ความสำคัญกับเกษตรกรรายเล็ก
โอกาสที่ชายหนุ่มได้รับ เจ้าตัว บอกว่า ดีใจมาก ไม่คิดว่าความฝันจะเป็นจริง จากเด็กชาวเขา เรียนจบสายช่างได้รับประกาศณียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เคยฝันว่าสักวันหนึ่งจะส่งผักเข้าร้านสะดวกซื้อ ทั้งที่ไม่มีทุนทรัพย์ ไม่มีเครือข่าย ซ้ำยังถูกเอารัดเอาเปรียบมาตลอด
“ผมเกิดและเติบโตที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พ่อแม่เป็นชาวเขาเผ่าม้ง มีอาชีพเป็นเกษตรกรปลูกผักขาย อาทิ ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ผมเรียนจบการศึกษาระดับ ปวส. ช่างยนต์ หลังเรียนจบ ราวปี 2551 มาช่วยครอบครัวปลูกผัก ผลผลิตที่ได้ถ้าผักสวยๆ จะถูกพ่อค้าคนกลางคัดไป ส่วนผักไม่สวยจะนำไปขายที่ตลาด กลับมาช่วยขายผัก 3 ปี จากนั้นจึงมองหาช่องทางการขายอื่น” มานิตย์ ย้อนอดีต
หลังชายหนุ่มเลือกทำตลาดเอง เขา บอกว่า ใช้วิธีขับรถเร่ขายผักไปตามจังหวัดต่างๆ อาทิ นครสวรรค์ กำแพงเพชร ระยอง ทว่าส่วนใหญ่เป็นตลาดค้าปลีก ลูกค้ากำลังซื้อน้อย สุดท้ายลงมากรุงเทพฯ ตัดสินใจขายส่งผักที่ตลาดสี่มุมเมือง หลักๆ ยังคงเป็น ผักกาดขาว กะหล่ำปลีแคร์รอตบรอกโคลี ในส่วนของรายได้ดีกว่าส่งพ่อค้าคนกลาง เฉลี่ยเดือนละ 200,000บาท
แม้กิจการจะดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่พ่อค้าผัก บอกว่า ในใจลึกๆ ฝันไว้ตั้งแต่เด็กอยากส่งผักขายร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้า เพราะอยากให้คนส่วนใหญ่ได้รับประทานผักปลอดภัย ที่สำคัญเป็นความภูมิใจของครอบครัว
และแล้วในปี 2557 เหมือนหนึ่งว่า ความฝันจะเริ่มเป็นแล้ว ทางเซเว่น อีเลฟเว่น มีโครงการทดลองขายผัดสด ชายหนุ่มไม่รอช้า เขารีบเข้าไปติดต่อขอร่วมโครงการทันที จากนั้นได้รับการติดต่อกลับ ให้นำผักกาดขาว กะหล่ำปลี แตงกวา แตงร้าน ต้นหอมผักชี ข่าตะไคร้ใบมะกรูด มาทดลองวางจำหน่าย
“ดีใจมากครับ ที่เซเว่นฯ ติดต่อกลับ ตอนนั้นไม่มีเงินทุนสร้างโรงแพ็คผัก เลยไปหาเช่าโรงแพ็คที่ได้มาตรฐาน เดือนละ 20,000 บาท ในช่วงแรกออร์เดอร์ยังไม่เยอะ ส่งเซเว่นฯ เริ่มต้น 20 สาขา หลังๆ เขยิบเพิ่มขึ้นเป็น 30 สาขา 40 สาขา ปัจจุบัน 300 สาขาเฉพาะกรุงเทพฯ – ปริมณฑลส่งผัก 50 รายการ ผักที่ขายดี แตงร้าน แตงกวา กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักบุ้งจีน” เขา กล่าว
จากวันนั้นก็ได้ค้าขายกับเซเว่นฯ เรื่อยมา กระทั่งปี 2561 ตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ หวังสร้างอนาคต ด้วยการซื้อที่ดิน 239 ตารางวา ย่านคลอง อ.ลำลูกกา 3 จ.ปทุมธานี มูลค่า 7.9 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานแพ็คผัก เพราะออร์เดอร์เกือบทั้งหมดมาจากเซเว่น
“ทุกวันนี้ผมส่งผักให้เซเว่นฯเจ้าเดียว แน่วแน่จะฝากอนาคตกับซีพี ออลล์ เพราะที่ผ่านมาออร์เดอร์เพิ่มขึ้นตลอด มีการประกันราคาให้ด้วย ยิ่งช่วงโควิด หลายๆ คนตกงาน แต่ยอดขายเราพุ่งขึ้นมากกว่าเท่าตัว จากเดิมส่งผักให้เซเว่นฯวันละ 6,000 – 8,000 แพ็ค ขยับเพิ่มเป็น 20,000 แพ็คต่อวัน ได้ความช่วยเหลือจากเซเว่นฯ ที่คิดไอเดียทำชุดผักพร้อมปรุง อาทิ ชุดต้มยำ ชุดสุกกี้ ชุดผัดกะเพรา ชุดผักน้ำพริก เพื่อกระตุ้นยอดขาย เพราะลูกค้าบางคนไม่รู้ว่าแต่ละเมนูต้องใส่ผักอะไรบ้าง”
สำหรับแหล่งที่มาของผัก เจ้าของกิจการ บอกว่า จะรับซื้อจากเกษตรกร 30 ราย ราว 200 ไร่ รับซื้อวันต่อวัน เช่น กะหล่ำปลีวันละ 400 กิโลกรัม ผักบุ้ง 100 กิโลกรัม แตงร้าน 150 กิโลกรัม ยอดคะน้า 100 กิโลกรัม เน้นความสดใหม่ สะอาด ผักสวย เป็นผักปลอดภัยทั้งหมด ทั้งนี้จะประกันราคาให้ทั้งปี และให้เกษตรกรเบิกเงินล่วงหน้าได้
ด้าน ทะนงศักดิ์ แซโค้ง เกษตรกรคนขยัน อายุ 66 ปี ปัจจุบันเช่าพื้นที่ปลูกผัก 30 ไร่ ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ส่งผักปลอดภัยขายในเซเว่นมาปีกว่า เจ้าตัว เล่าว่า ตั้งแต่ค้าขายกับซีพี ออลล์ มีรายได้ที่แน่นอน ไม่ต้องกังวลเรื่องถูกเอาเปรียบ มีรายได้ทุกวัน เฉลี่ยวันละ 1,200 บาท สบายใจ มั่นใจไม่ตกงาน
ทะนงศักดิ์ แซโค้ง
“เมื่อก่อนส่งผักขายตลาด มีออร์เดอร์ไม่แน่นอน ซ้ำยังถูกกดราคา ตั้งแต่ส่งผักให้เซเว่นฯสบายใจขึ้นเยอะ ไม่โดนเอาเปรียบได้กำไรแน่นอนอย่างน้อยกิโลกรัมละ 5 บาท ยิ่งช่วงโควิด – 19 เพื่อนเกษตรกรด้วยกันตกงาน แต่เรารายได้เพิ่ม จากวันละ 1,200 เป็น 2,400 บาท เรียกว่าเหนื่อยกายแต่ไม่เหนื่อยใจ เพราะได้จับเงินทุกวัน” ทะนงศักดิ์ กล่าว
จากที่ได้ร่วมงานกับบริษัท ซีพี ออลล์ ทั้งนายมานิตย์และนายทะนงศักดิ์ เผยความในใจว่า ตลอดระยะเวลาที่เป็นคู่ค้ากันมา ได้รับการช่วยเหลือจากเซเว่นฯ ทุกอย่าง ไม่คิดว่าองค์กรใหญ่จะให้ความสำคัญกับเกษตรกรที่เรียนจบไม่สูง ช่วยสร้างงานที่มั่นคง มีออร์เดอร์ที่แน่นอน ปัจจุบันวางอนาคตให้ลูกๆ เข้ามาช่วยงานต่อแล้ว