“ผลิตภัณฑ์กล้วยกรอบแก้ว มีแบบม้วน แบบแว่น แบบสไลด์ และแบบแท่ง กรรมวิธีทำไม่ยากหัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกกล้วยไข่ ต้องใช้กล้วยไข่ปลูก 7 เดือน ตัดก่อนกล้วยจะสุก 3 วัน กล้วยภาคใต้ลูกเล็ก เนื้อแน่น กรอบ สาเหตุที่เลือกใช้กล้วยลักษณะนี้ รสชาติจะไม่หวาน แต่จะให้ความมัน ปรุงรสชาติแล้วเข้ากันดี”
นับเป็นการเพิ่มมูลค่า “กล้วยไข่” ที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ ตำบลลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ “กล้วยไข่กรอบแก้ว” จากกล้วยไข่ในสวน ราคากิโลกรัมละเพียง 3 บาท สร้างสรรค์เป็นสแน็คกล้วยชั้นเยี่ยมรสชาติหลากหลาย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพในยุคปัจจุบัน พอมีโอกาสเข้าไปขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นได้ไม่นาน ลูกค้าต่างชื่นชอบ สร้างรายได้ให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน300,000 – 400,000 บาทต่อเดือนทำให้สมาชิกกว่า15ครัวเรือนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ที่สำคัญชาวสวนกล้วยไข่ยังมีออร์เดอร์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพราะทางกลุ่มวิสาหกิจรับซื้อพร้อมประกันราคาให้อีกด้วย
ประทิ่น นาคมิตร
หากย้อนไปดูที่มาของความสำเร็จของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้จะพบว่า เกิดจากความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือเกษตรกร ของบริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)และผู้นำในชุมชนบ้านลำสินธุ์ ตำบลลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง
นางประทิ่น นาคมิตร วัย 64 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ เล่าว่า ปี พ.ศ.2540 เข้ามารับช่วงต่อเป็นประธานกลุ่ม ด้วยความตั้งใจหลัก คือ นำพากลุ่มให้อยู่รอด และช่วยเหลือเกษตรกรในท้องถิ่นให้มีรายได้ ซึ่งตอนนั้นเห็นกล้วยน้ำว้า และกล้วยไข่ ราคาตกต่ำมาก จากกิโลกรัมละ 40 บาท ลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 3 บาท สมาชิกทุกคนลงมติเป็นเสียงเดียวกัน ‘ควรนำมาแปรรูป’
ผู้นำกลุ่มพลิกโฉมกล้วยให้กลายเป็นขนมกินเล่นแบบสแน็ค โดยเลือกใช้กล้วยไข่ เปลี่ยนเมนูพื้นๆ จากกล้วยฉาบ กล้วยเชื่อม กล้วยกวน ให้เป็นกล้วยกรอบแก้ว ปรุงรสแตกต่างจากท้องตลาดมี รสเค็ม รสหวาน รสปาปริก้า รสบาร์บีคิว ต้มยำ และรสสาหร่าย แข่งกับขนมสมัยใหม่ได้
“ผลิตภัณฑ์กล้วยกรอบแก้ว มีแบบม้วน แบบแว่น แบบสไลด์ และแบบแท่ง กรรมวิธีทำไม่ยากหัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกกล้วยไข่ ต้องใช้กล้วยไข่ปลูก 7 เดือน ตัดก่อนกล้วยจะสุก 3 วัน กล้วยภาคใต้ลูกเล็ก เนื้อแน่น กรอบ สาเหตุที่เลือกใช้กล้วยลักษณะนี้ รสชาติจะไม่หวาน แต่จะให้ความมัน ปรุงรสชาติแล้วเข้ากันดี” นางประทิ่น กล่าว
สำหรับกรรมวิธีทำกล้วยกรอบแก้ว ผู้นำกลุ่ม เผยว่า ขั้นตอนแรก นำกล้วยสดล้างน้ำสะอาด จากนั้นนำไปปอกเปลือก แช่ในน้ำมะนาวเพื่อไม่ให้ผิวกล้วยดำ ล้างน้ำสะอาดอีกที นำไปสไลด์เป็นแผ่นบางๆ ทอดลงกระทะน้ำมันความร้อน 160 องศา ประมาณ 5 นาที ปรุงรสชาติตามต้องการ จากนั้นเข้าตู้อบอีก 3 -10 นาที ซับน้ำมันและไล่ความชื้นเพื่อป้องกันเชื้อรา
ด้านการตลาด นางประทิ่น ย้ำว่า ทางกลุ่มพัฒนาสินค้ามาเรื่อยๆ ลงพื้นที่ออกบูธทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง กระทั่งปี พ.ศ. 2552 ขณะที่กำลังอยากเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายและยกระดับสินค้าให้เป็นที่รู้จัก มีผู้บริหารเซเว่นฯ เข้ามาสอบถามว่า อยากลองนำกล้วยกรอบแก้วมาขายในเซเว่นไหม?จึงไม่รอช้ารีบตอบตกลงทันที
หลังได้รับการติดต่อจากผู้บริหารเซเว่นฯ ผู้นำกลุ่มมองการณ์ไกลว่า ช่องทางร้านสะดวกซื้อนับเป็นโอกาสขยายตลาดค้าปลีกที่รวดเร็ว เลยตัดสินใจยกเครื่องโรงงานสร้างใหม่เพื่ออนาคต เปลี่ยนอุปกรณ์ตั้งแต่กระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ เนื้อที่โรงงานใหม่ประมาณครึ่งไร่ ใช้ระยะเวลาพัฒนาสินค้าร่วมกับซีพี ออลล์ เกือบ 1 ปีเต็ม โดยทีมงานเซเว่นฯ เข้ามาแนะนำเรื่องของการตลาด การพัฒนาคุณภาพสินค้า และบรรจุหีบห่อให้น่าสนใจ สะดุดตาผู้บริโภค
“ปี พ.ศ. 2553 สินค้าถูกนำไปวางขายที่ร้านเซเว่นฯ เริ่มสาขาภาคใต้ก่อนจะกระจายไปภาคอื่นๆ ปัจจุบันกระจาย 1,500 สาขา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ เป็นชุมชนกลุ่มแรกของจังหวัดพัทลุง ที่สามารถเป็นคู่ค้ากับบริษัทค้าปลีกระดับประเทศ ส่งผลถึงยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์กล้วยเมืองลุงเริ่มเป็นที่รู้จัก ปัจจุบันทางกลุ่มฯ จะใช้กล้วยไข่ดิบรับซื้อจากเกษตรกรวันละ 300 กิโลกรัมนำมาแปรรูป มีการประกันราคาให้ด้วย เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7-12บาท ออร์เดอร์จากร้านเซเว่นฯ ช่วยสร้างรอยยิ้มให้ชาวสวน ไม่ต้องโค่นต้นกล้วยในยามที่ราคาตกต่ำ”
นับตั้งแต่เป็นคู่ค้ากับเซเว่นฯ นางประทิ่น บอกด้วยรอยยิ้มว่า ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง รายได้เฉลี่ยเดือนละ 300,000 – 400,000 บาท ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิก 15 ครอบครัวดีขึ้น ส่วนเกษตรกรต่างแฮปปี้ เพราะทางกลุ่มช่วยประกันราคากล้วย และมีเงินกองทุนฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกร ดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี ทั้งหมดนี้เป็นพลังความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างผู้ผลิตสินค้า และทีมงานจำหน่ายสินค้าของเซเว่นฯ ทำให้ผลิตภัณฑ์ “กล้วยไข่กรอบแก้ว”ในวันนี้ได้รับมาตรฐานมากมาย ทั้งมาตรฐาน มพช. โอทอป 5 ดาว อย. ฮาลาล และ HACCP และมีโอกาสขยายตลาดไปในต่างประเทศ ล่าสุดได้ส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศเวียดนาม จีน สิงคโปร์รวมถึงญี่ปุ่น
เห็นแล้วภาคภูมิใจที่สินค้าไทยไปได้ไกลถึงต่างแดน โดยสามารถรับชมเรื่องราวของ SME กล้วยเมืองลุง ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=aseH2wWdy3w