พาณิชย์ปลื้ม นำผู้ประกอบการภาพยนตร์ไทย 5 วันแรก โกยกว่า 9,400 ล้านบาท

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ โชว์ความสำเร็จ หลังยกทัพผู้ประกอบการบันเทิงไทยพบนักลงทุนสำคัญระดับโลกในงานแสดงสินค้า Cannes Film Festival 2019 เพียง 5 วันแรก โกยรายได้ทะลุเป้ากว่า 9,400 ล้านบาท

        นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “จากนโยบายภาครัฐ ที่ต้องการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ให้เป็นที่ยอมรับเพิ่มมากขึ้นในตลาดโลก กระทรวงพาณิชย์ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ ในการส่งเสริมและผลักดันสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและนำรายได้เข้าประเทศ จึงได้นำคณะผู้ประกอบการภาพยนตร์ไทย จำนวน 12 ราย เดินทางไปเจรจาการค้าภายในงานแสดงสินค้า Cannes Film Festival 2019 ระหว่างวันที่ 14 – 23 พฤษภาคม 2562

                                                                       บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร    

       ทั้งนี้ ตลาดภาพยนตร์ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จากการดูภาพยนตร์ผ่าน DVD หรือ BluRay ถูกแทนที่ด้วย OTT และ VOD กลายเป็น ยุคแห่งดิจิทัล ผู้ชมภาพยนตร์ต้องการความหลากหลาย แปลกใหม่ และโดดเด่น จึงทำให้ ผู้ประกอบการภาพยนตร์ไทยต้องพัฒนาวิธีการผลิตและการขายอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาด ในการร่วมงานครั้งนี้ผู้ประกอบการทั้ง 12 ราย ได้นำผลงานที่โดดเด่นมาเข้าร่วมงาน ทั้งภาพยนตร์ไทยแนวแอคชั่นและสยองขวัญ ซึ่งยังคงได้รับความสนใจ อย่างต่อเนื่องจากต่างประเทศ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Nemesis ของบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด ภาพยนตร์เรื่อง พี่นาค ของ บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด และภาพยนตร์เรื่อง Sisters ของบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

                                                                             

         นายบุณยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า  บริษัทไทยที่ให้บริการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยก็ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจจากนานาประเทศในการร่วมลงทุนและถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ด้วยความพร้อมของทีมงานและศักยภาพ ที่สามารถรองรับมาตรฐานการทำงานในระดับสากล ส่งผลให้เกิดการเจรจาการค้า 371 คู่ โดยมี 5 ประเทศสูงสุด ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และประเทศเกาหลีใต้ มีมูลค่าคาดการณ์ต่อเนื่องภายใน 1 – 5 ปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 9,400 ล้านบาท เป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพและศักยภาพด้านการแข่งขันของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในต่างประเทศ และเชื่อมั่นว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคตต่อไป

         นอกจากนี้ บริษัท เดอะ สตูดิโอ พาร์ค โปรดักชั่น เซอร์วิส จำกัด (บริษัทในเครือ บริษัท เดอะ สตูดิโอ พาร์ค (ประเทศไทย) จำกัด) ได้เซ็นสัญญาการเป็น Partner กับบริษัท Salty Pictures โดยมีการตกลงที่จะถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย จำนวน 5 เรื่อง ภายในเวลา 1 ปี ทางด้านบริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด ได้เจรจากับบริษัทผู้ลงทุนจากประเทศฝรั่งเศส เพื่อร่วมผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทย และบริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ได้เซ็นสัญญาและปิดการขายภาพยนตร์เรื่อง Bad Genius (สิทธิ์ TV & Internet Rights) กับบริษัท Azure Entertainment Private Limited จากประเทศอินเดีย อีกทั้งยังได้ขายสิทธิ์ ภาพยนตร์เรื่อง Diary of Tootsie The Movie (ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เดอะมูฟวี่) ได้ทันทีให้แก่ บริษัท Movie Cloud จากประเทศไต้หวัน และบริษัท Edko Films จากฮ่องกง รวมถึงได้ปิดการขายภาพยนตร์เรื่อง Friend Zone ได้ทันทีกับ บริษัท Lumixmedia จากประเทศเกาหลีใต้

         ทางด้านผู้ประกอบการไทยที่ร่วมเดินทางไปเจรจาการค้า กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า ภาพยนตร์ไทยยังได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดต่างประเทศ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Cannes Film Festival เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มโอกาสทางการค้าและประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ภาครัฐจะต้องสนับสนุนผู้ประกอบการภาพยนตร์ไทยในการเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงศักยภาพและสร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในต่างประเทศต่อไป