KC FARM ยกระดับทำไร่ข้าวโพดหวาน สู่ smart farm 4.0 ดึงนวัตกรรม-เทคโนโลยีสมัยใหม่ ลดต้นทุนแก้ปัญหาล้นตลาด เพิ่มคุณภาพผลผลิต
นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) จ.เชียงใหม่ ผู้ผลิตและส่งออกข้าวโพดหวาน ภายใต้แบรนด์ KC เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนงานสำคัญจะมุ่งยกระดับการผลิตระบบแปลงเพาะปลูกข้าวโพดหวานแบบแม่นยำในรูปแบบฟาร์มอัจฉริยะ หรือ smart farm ให้พัฒนาไปอีกขั้น สู่ smart farm 4.0 โดยเน้นผสมผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาต้นทุนที่สูง วัตถุดิบล้น วัตถุดิบขาดตลาด และคุณภาพ ซึ่งปัจจัยทุกด้านต้องมีความสอดคล้องกัน ทั้งการให้น้ำ ตรวจคุณภาพดิน วัดความชื้น สภาพอากาศ และการเก็บเกี่ยว โดยซันสวีทได้ร่วมกับบริษัท สกาย วีไอวี จำกัด (Sky VIV) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการให้บริการด้านเกษตรกรรมแม่นยำที่นำเทคโนโลยีชั้นสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เข้ามาช่วยโดยเริ่มเข้าไปส่งเสริมเกษตรกรในอำเภอแม่แจ่ม เชียงดาว และแม่ริม เฉพาะพื้นที่อำเภอเชียงดาว ที่บ้านห้วยลึก จำนวน 17,500 ไร่ และบ้านทุ่งละคร 15,000 ไร่
“ปัจจุบันศูนย์การเรียนรู้ KC FARM มีเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ ตั้งอยู่บ้านแพะประทานพร หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งปี้ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นฟาร์มต้นแบบการเพาะปลูกข้าวโพดหวาน ในรูปแบบฟาร์มอัจฉริยะ หรือ smart farm ซึ่งเริ่มทำโครงการมาตั้งแต่ปี 2555 ปัจจุบันบริษัทมีระบบเกษตรแบบพันธสัญญากับเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนกว่า 20,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่ปลูกทั้งหมดราว 50,000-100,000 ไร่
โดยกระบวนการ smart farm เริ่มตั้งแต่การนำดินมาวิเคราะห์ธาตุอาหารหลัก (N-P-K) การปลูกจะย้ายกล้าเพื่อให้ได้จำนวนต้นต่อไร่มากขึ้น มีการวางระบบน้ำหยดในแปลงเพื่อให้ต้นข้าวโพดหวานได้รับความชื้นที่เหมาะสม และสามารถให้ปุ๋ยทางระบบน้ำหยด ซึ่งประหยัดต้นทุนและมีคุณภาพได้ ทำให้ผลผลิตข้าวโพดหวานเพิ่มขึ้น 2,800-3,500 กิโลกรัมต่อไร่”
ขณะที่ระบบการชลประทานเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งปริมาณของผลผลิตมีความสัมพันธ์กับระดับความชื้นในดินโดยตรง ดังนั้นระบบควบคุมการให้น้ำแบบอัตโนมัติที่มีความเที่ยงตรงและแม่นยำจะทำให้ได้ผลผลิตและคุณภาพที่สูงขึ้น และมีระบบเปิด-ปิดจ่ายน้ำในพื้นที่นั้น ๆ อย่างแม่นยำ
ภายในฟาร์มทดลองต้นแบบของ KC FARM ได้นำระบบโซลาร์มาใช้ โดยเฉพาะระบบเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะผลิตกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จ่ายกระแสไฟฟ้าโดยตรงไปที่ inverter โดยระบบ solar pump จะทำงานทันทีเมื่อมีแสงอาทิตย์ และจะหยุดการทำงานเมื่อไม่มีแสงอาทิตย์ โดยระยะเวลาการทำงานของระบบอยู่ในช่วง 5-7 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งไม่ต้องรอดินฟ้าอากาศ แต่สามารถควบคุมระบบน้ำและอื่น ๆ แบบอัตโนมัติ ประหยัดพลังงาน เป็นการควบคุมด้วยเทคโนโลยี internet of things (IOT) เมื่อดินแห้งหรือขาดน้ำ ระบบปั๊มน้ำจะทำงานอัตโนมัติ น้ำจะไหลเข้าสู่แปลงปลูก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับต้นข้าวโพดหวานที่พร้อมจะเจริญเติบโต ซึ่งเกษตรกรสามารถทำได้เอง เป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่าในระยะยาว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ : อ่านเพิ่มเติม : https://www.prachachat.net/local-economy/news-195024