คนบ้านๆทำ“น้ำพริกป้าแว่น”จากตลาดนัดสู่ตลาดไฮโซ

  •  
  •  
  •  
  •  

      คนบ้านๆทำ“น้ำพริกป้าแว่น”

       จากตลาดนัดสู่ตลาดไฮโซ

 

        “เราได้เริ่มนำน้ำพริกสดเข้ามาขายในตู้แช่เย็นเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวของประเทศไทยที่ขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เริ่มจากน้ำพริกเจขายในช่วงเทศกาลกินเจ ตามมาด้วยน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาร้า และล่าสุด น้ำพริกปลาดุกฟู”

         โบราณว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” แต่ก็ไม่ได้เสมอไป บางครั้งต้องเป็นช่วงจังวะและเวลาด้วย จะเห็นได้ในวงการผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี (SME) ดุจเดียวกับ “บังอร วันน้อย” เจ้าของผลิตภัณฑ์ “น้ำพริกป้าแว่น” และประธานกลุ่มอาชีพน้ำพริกปรุงรส ตำบลท่าบุญมี กิ่งอำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี กระนั้นกว่าจะถึงวันนี้ได้ ต้องฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคมากมาย กระทั่งสินค้าในวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” และห้างสรรพสินค้าชั้นนำได้ในวันนี้ และตั้งเป้าในปีนี้กิจการโตถึง 40 %อีกด้วย

          บังอร บอกว่า เริ่มอาชีพทำไร่ทำนา เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ จึงพลิกชีวิตสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจน้ำพริก ซึ่งแต่ก่อนที่จะทำน้ำพริกนั้น เธอใฝ่ฝันอยากขายของกับเซเว่นฯ แต่ไม่รู้จะขายอะไรดี ในตอนนั้นครอบครัวมีฐานะยากจน และต้องหาเงินส่งลูกเรียนหนังสือถึง 3 คน กระทั่งวันหนึ่งมีคนบอกว่าเราทำอาหารอร่อย น่าจะขายอาหารได้ จึงเริ่มต้นทำน้ำพริกเมื่อปี 2540ไปขายตามตลาด ขายทั้งวัน กำไรบ้างขาดทุนบ้าง แต่ด้วยความพยายามและไม่ย่อท้อ ทำให้มีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าของตลาดจึงตั้งชื่อให้ว่า “น้ำพริกป้าแว่น”

[adrotate banner=”3″]

         ไม่นานนัก น้ำป้าแว่น มีการบอกปากต่อปาห ทำให้ผลตอบรับกลับมาดี เริ่มเป็นที่รู้จัก และยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ แต่ตอนนั้นยังในครอบครัว หลังจากพบว่ายอดขายเพิ่มขึ้น จึงตั้ง “กลุ่มอาชีพน้ำพริกปรุงรส”ขึ้นมาในปี 2545  มีสมาชิกประมาณ 36 คน จากนั้นได้นำผลิตภัณฑ์น้ำพริกเข้าประกวดสินค้าในโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณ หรือโอทอป โดยพัฒนาสินค้าให้ได้ทั้งรสชาติอร่อย และบรรจุภัณฑ์สวยงาม ทำให้ได้รับรางวัลโอทอป 5 ดาวเป็นคนแรกในจังหวัดชลบุรี จากกรมพัฒนาชุมชน ในปี 2546-2547 และได้ติดต่อมา 2 ครั้ง เธอจึงะบุกตลาดอย่างจริงจัง เสนอตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ รวมถึงวันหนึ่งมีโอกาสนำน้ำพริกมาขายในร้านเซเว่นฯ โดยมีทีมงานของเซเว่น อีเลฟเว่นคอยให้ความรู้เรื่องมาตรฐานต่างๆ

 

          เริ่มจากการพัฒนาโรงงานให้ได้มาตรฐาน  รวมไปถึงเรื่องคุณภาพของสินค้า มาดูแลให้คำแนะนำทุกๆ 3 เดือน เพื่อบอกให้พัฒนาแก้ไขในส่วนใดบ้าง ป้าใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะไม่มีเงินทุน ซึ่งเซเว่นฯ เขาก็ให้ความช่วยเหลือมาตลอด ใช้เวลาทั้งหมด 2 ปีกับ 3 เดือน ในปี 2555จึงได้เข้าไปขายนั่นคือจุดเริ่มต้นในการสร้างรายได้มากมายให้กับธุรกิจน้ำพริก กระทั่งนำมาสู่การพัฒนาต่อยอดสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยการลองผิดลองถูก เป็นการนำเอาวัตถุดิบหลากหลาย มาสร้างสรรค์น้ำพริกให้มีความแตกต่างและคงความเป็นเอกลักษณ์ของสินค้า

         “เราเริ่มจากการนำน้ำพริกแห้งเข้ามาวางขาย เช่นน้ำพริกตาแดง น้ำพริกนรกกุ้งน้ำพริกลงเรือ น้ำพริกทะเล และน้ำพริกเห็ดหอมเจ และตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา และเราได้เริ่มนำน้ำพริกสดเข้ามาขายในตู้แช่เย็นเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวของประเทศไทยที่ขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เริ่มจากน้ำพริกเจขายในช่วงเทศกาลกินเจ ตามมาด้วยน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาร้า และล่าสุด น้ำพริกปลาดุกฟู” ป้าแว่น ย้อนอดีต

          ไม่เพียงแค่การพัฒนาธุรกิจเท่านั้น แต่ธุรกิจน้ำพริกป้าแว่นยังได้ช่วยให้เกิดการจ้างงานจากคนในชุมชน มีการรับพนักงานสูงอายุเข้าทำงาน และให้การช่วยเหลือเกษตรกรชุมชน ด้วยการรับซื้อวัตถุดิบทางการเกษตร ได้แก่ พริกขี้หนู ข่า ตะไคร้ จากชุมชนในอำเภอเกาะจันทร์ และอำเภอใกล้เคียงใน จ.ชลบุรี ทำให้ชุมชนมีช่องทางในการขาย โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เป็นการเสริมสร้างอาชีพให้กับชุมชนและเกษตรกรให้มีอาชีพ รายได้ที่ดีขึ้น

         นอกจากนี้ ที่โรงงานยังให้ความสำคัญในการดูแลพนักงานมาอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการให้ทีมงานทำงานอย่างมีความสุข ทุกเช้าก็จะให้ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่างๆ มีการจัดวันเกิดให้พนักงาน และทริปทัศนศึกษาประจำปี

         ป้าแว่น ยังบอกถึงเคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจ “น้ำพริกป้าแว่น” ประสบความสำเร็จ ว่า ต้องใส่ใจในรสชาติ ความอร่อย มาตรฐานการผลิตวัตถุดิบคุณภาพพร้อมกับความมุ่งมั่น และคาดว่าในปี 2561 จะเติบโตขึ้น40 %

          ด้าน บัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอีที่ผลิตสินค้ามีคุณภาพมาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชนมาตลอด โดยบริษัทจะเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ SME เพื่อส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภคผ่านร้านเซเว่นฯ ทั่วประเทศ และผ่านช่องทางของบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด

         ปัจจุบันจำหน่ายสินค้าผ่านนิตยสารทเวนตี้โฟร์ แคตตาล็อก ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ และอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบันทั้งเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ได้จัดจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีรวมทั้งสิ้น 10,000 รายการ และมีการพัฒนา SME ให้เจริญก้าวหน้าเพื่อเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

         “ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นและทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้งมีสินค้าเอสเอ็มอีที่จำหน่ายหลายประเภท โดยเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เช่น ผลไม้แปรรูป, เครื่องดื่ม, เบเกอรี่, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นต้น ซึ่งสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของกลุ่มธุรกิจ SME จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” บัญญัติ กล่าว

          “บังอร วันน้อย” นับเป็นลูกผู้หญิงคนเก่งอีกคนที่ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆจนผ่านพ้นไปด้วยดี ทำให้ “น้ำพริกป้าแว่น” ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ผู้ประกอบการ SME ที่มีความต้องการนำสินค้ามาจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ เหมือนน้ำพริกป้าแว่น สามารถนำสินค้ามาเสนอได้ที่เซเว่น อีเลฟเว่น และบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด หรือเว็บไซต์ www.cpall.co.th, www.7eleven.co.th และ www.24shopping.co.th