Flowerpot Café คาเฟ่น่านั่ง ชิมเค้กกระถางในบรรยากาศสวนสวย

หากต้องการประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน ต้องไม่หยุดคิด เพราะปัจจุบันกระแสต่างๆ เปลี่ยนเร็ว หากหยุดพัฒนาจะสูญเสียลูกค้าไปทันที ต้องพัฒนาในทุกส่วนไปพร้อมๆ กัน
Flowerpot café ร้านกาแฟแสนน่ารักในบรรยาศธรรมชาติ บริหารงานโดยคุณอรณิชา ชุณหศรี ซึ่งได้เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจว่า เป็นคนที่ชอบทำขนม โดยเฉพาะเค้ก บวกกับมีใจรักในความเป็นธรรมชาติ จึงมีความฝันในการที่จะมีร้านเค้กเป็นของตัวเอง แต่เนื่องจากในตลาดมีการแข่งขันสูง จึงต้องการสร้างคอนเซ็ปต์ที่โดดเด่น โดยเริ่มจากความชอบคือ “ขนมและธรรมชาติ” ซึ่งเป็นที่มาของ Flowerpot Café ร้านขนมที่มีบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้
คุณอรณิชา เล่าว่า เมื่อต้องการแตกต่างจากเจ้าอื่นในตลาดจำเป็นต้องมีคอนเซ็ปต์ร้านที่ชัดเจน เลือกความเป็นธรรมชาติ เพราะคาเฟ่ทั่วไปมีน้อยมากที่จะมีต้นไม้เยอะภายในร้าน Flowerpot Café จะประดับตกแต่งและเต็มไปด้วยต้นไม้ ซึ่งมีบรรยากาศที่ร่มรื่น นอกจากนี้ต้นไม้แต่ละต้นภายในร้านยังมีไว้สำหรับจำหน่ายให้กับลูกค้าอีกด้วย
นอกจากบรรยากาศความเป็นธรรมชาติของร้าน สินค้าที่จำหน่ายก็จะต้องมีความโดดเด่นและแตกต่างเช่นกัน คุณอรณิชาได้สร้างสรรค์ไอเดีย “เค้กกระถาง” ขึ้นมา มีความน่าสนใจในรูปลักษณ์และรสชาติที่ถูกปาก มีให้เลือกหลายรสชาติ ซึ่งนอกจากจะได้รับประทานเค้กอร่อยๆ แล้ว ลูกค้าจะได้กระถางเล็กๆ กลับไปเพื่อปลูกต้นไม้หรือเป็นที่ระลึกอีกด้วย
ทดลองตลาดด้วยการขายผ่านออนไลน์
ในส่วนการเตรียมความพร้อมก่อนทำธุรกิจ คุณอรณิชาเล่าว่า เริ่มจากการคิดสูตรขนม แม้จะมีความรู้เดิมจากที่บ้านเคยขายเบเกอรี่ แต่ก็ต้องไปเรียนการทำขนมเค้กเพิ่ม ปรับเปลี่ยนจากเดิมที่เคยทำกินเองเพื่อให้เหมาะสมสำหรับการจำหน่าย ซึ่งเมื่อได้สูตรที่ลงตัวจึงมาจัดการต่อในเรื่องของรูปลักษณ์ ต้องการความเป็นธรรมชาติคือเค้กกระถางจึงติดต่อไปยังซัพพลายเออร์สั่งทำกระถางที่สามารถใส่อาหารได้
จากนั้นจึงได้ทำการทดลองตลาดด้วยการขายผ่านออนไลน์ พร้อมกับหาทำเลที่เหมาะสมไปพร้อมๆ กัน นอกจากขายออนไลน์แล้วยังมีการออกบูธขายตามงานอีเวนต์ต่างเพื่อให้เป็นที่รู้จัก ต้องการสร้างฐานลูกค้า ซึ่งตระเวนขายอยู่ประมาณ 7 เดือน จนมาเจอทำเลที่ถูกใจ คือในซอยรามคำแหง 21 ซึ่งเป็นพื้นที่ในเมืองที่มีมีต้นไม้ค่อนข้างเยอะ ตรงตามคอนเซ็ปต์ที่ต้องการ
“มีการวางแผนการตลาดว่าจะขายคนกลุ่มไหน คำนวณต้นทุนว่าในราคานี้ต้องขายเค้กชิ้นละเท่าไหร่ เมื่อพร้อมทุกด้านแล้วจึงเปิด โดยใช้งบประมาณเบื้องต้นในการสร้างธุรกิจประมาณ 1 ล้านบาท” คุณอรณิชากล่าว
ปรับเปลี่ยนตามกระแสตลาดและความต้องการของลูกค้า
สินค้าเด่นของ Flowerpot Café ที่ทุกคนมาที่ร้านแล้วต้องสั่งคือเค้กกระถาง ซึ่งมีทั้งหมด 5 รสชาติ คือช็อกโกแลตฟัดจ์ บลูเบอร์รี่ชีสพาย โอริโอชีสพาย บานอฟฟี่ และสตรอว์เบอร์รี่มูส ซึ่งคุณอรณิชา เปิดเผยว่า มีวิธีจัดการเมนูต่างๆ ทั้งขนมและเครื่องดื่ม คือสำรวจพฤติกรรมของลูกค้าตลอดเวลาว่าชื่นชอบอะไร สินค้าตัวไหนที่ลูกค้าไม่ชอบก็มีการปรับออกจากรายการ ทำให้เมนูมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดตามกระแสและความต้องการของลูกค้า อย่างเช่นเทศกาลวาเลนไทน์ก็จะมีเมนูใหม่ๆ เข้ามา โดยดูกระแสตลาดเป็นหลัก อย่างกรณีของเครื่องดื่มในช่วงปี 2660 ที่ผ่านมาก็จะเป็นมิลค์เชค แต่พอมาในปีนี้จะมาเป็นนมยูนิคอร์นสีรุ้ง
“หากไม่มีเมนูใหม่ๆ เลยลูกค้าจะเบื่อ มีความกลัวว่าลูกค้าจะเกิดความจำเจ ใช้วิธีคิดที่ว่า หากเราเป็นลูกค้า แล้วเราอยากได้อะไรจากร้านนั้น ทำให้มีลูกค้าเก่าๆ ที่เป็นขาประจำ เพราะมีอะไรใหม่ๆ มาคอยบริการอยู่ตลอด”
Marketing Online
Flowerpot Café เปิดให้บริการมาเป็นเวลา 3 ปี คุณอรณิชา เผยว่า ได้การตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยเฉพาะในปีแรก ซึ่งต้องขยายพื้นที่ให้บริการภายในร้านออกไปตั้งแต่ 3 เดือนแรก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จนั้นมาจากตัวโปรดักต์คือเค้กกระถาง ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนนั้นไม่เคยมีใครทำมาก่อน บวกกับบรรยากาศภายในร้านที่ร่มรื่น อีกทั้งยังมีต้นไม้ขาย ซึ่งมีลูกค้าหลายคนมากินกาแฟแล้วเลือกซื้อต้นไม้กลับบ้าน
ทำการตลาดด้วย Facebook แฟนเพจ และ Instagram ซึ่งในยุคปัจจุบันการใช้โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง นอกจากนี้ยังการออกบูธเพื่อพบปะกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งคุณอรณิชาเน้นว่า แม้จะเปิดร้านมานาน 3 ปี แต่ยังต้องหมั่นไปออกบูธอยู่เรื่อยๆ เพราะยังมีลูกค้าอีกมากที่ยังไม่รู้จัก นอกจากนี้ยังต้องมีความพิเศษต่างๆ ให้ลูกค้า เช่น ซื้อเค้ก 2 ชิ้น แถม 1 ชิ้น เป็นโปรโมชั่นหน้าร้านอีกด้วย
“ต้องไม่หยุดนิ่ง พยายามคิดอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา หากมีสินค้าอะไรใหม่เราก็ขยันโพสต์ลงโซเชียลเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเห็นแล้วรู้สึกอยากมา”
ระบบร้านต้องชัดเจน
แม้จะได้การตอบรับที่ดีตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน แต่คุณอรณิชาได้เล่าว่า ต้องพบเจอกับปัญหาด้วยเช่นกัน เพราะแรกเริ่มคิดว่าจะเปิดเป็นร้านเล็กๆ ที่มีลูกค้าจำนวนไม่มากจึงไม่ได้วางระบบที่ชัดเจน ซึ่งเมื่อเปิดร้านแล้วได้การตอบดี มีลูกค้าเข้ามามากทำให้เกิดปัญหา เช่นลูกค้ารอนาน ทำเมนูผิด ซึ่งได้คำตำหนิจากลูกค้า จึงต้องมีการวางระบบใหม่ทั้งหมดในเรื่องของการบริการ
“นอกจากนี้ยังเจอในเรื่องของคู่แข่ง ซึ่งในปัจจุบันเริ่มมีเค้กกระถางแบบเดียวกันหลายเจ้าในตลาด ซึ่งสิ่งที่ต้องทำคือพัฒนาสินค้าของเราให้ดีที่สุด อาจเพิ่มรสชาติใหม่ๆ หรือเมนูอื่นๆ เข้ามาเพื่อความน่าสนใจและเป็นตัวเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า” คุณอรณิชากล่าว
อยากสำเร็จอย่างยั่งยืน ต้องไม่หยุดคิด
และคุณอรณิชายังกล่าวอีกว่า ในการทำธุรกิจ หากต้องการประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน ต้องไม่หยุดคิด เพราะปัจจุบันกระแสต่างๆ เปลี่ยนเร็ว หากหยุดพัฒนาจะสูญเสียลูกค้าไปทันที ต้องพัฒนาในทุกส่วนไปพร้อมๆ กัน ทั้งขนม เครื่องดื่ม ประเมินกลุ่มลูกค้า ดูกระแสความต้องการ นอกจากนี้ยังรวมถึงการบริการ โดย Flowerpot Café มีการอบรมพนักงานทุกอาทิตย์ เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีในการให้บริการ
สุดท้าย เจ้าของร้าน Flowerpot Café ได้ฝากคำแนะนำสำหรับเอสเอ็มอี โดยกล่าวว่า ในการสร้างธุรกิจเช่นการเปิดร้านขึ้นมาสักร้านหนึ่ง การมีเงินเพียงอย่างเดียวนั้นไม่อาจทำให้ประสบความสำเร็จได้ การเตรียมความพร้อมก่อนลงมือทำเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะปัจจุบันการแข่งขันสูง ต้องศึกษากลุ่มตลาดให้ดีก่อน และหากไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหนให้มองจากความชอบของตัวเอง
“เพราะการได้ทำในสิ่งที่ถนัดจะได้งานที่ดีที่สุดออกมา เมื่อมีความรู้เพียงพอบวกกับการได้ทำในสิ่งที่ชอบก็จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้” คุณอรณิชากล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : bangkokbanksme.com