SME D Bank เดินหน้า หนุนเอสเอ็มอีถึงแหล่งทุน  ชู 3 โครงการสินเชื่อกองทุนประชารัฐ  เสริมศักยภาพสู่เศรษฐกิจยุคใหม่

  •  
  •  
  •  
  •  

SME D Bank เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม หนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนสินเชื่อกองทุนประชารัฐกว่า 2,500 ล้านบาท ผ่าน 3 โครงการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ช่วยยกระดับเสริมศักยภาพเอสเอ็มอีสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ปลื้มความสำเร็จที่ผ่านมา เติมทุนแล้วกว่า 13,700 ราย  วงเงินทะลุ 25,650 ล้านบาท  ชู “ไรซ์แฟคทอรี่” ต้นแบบบุกเบิกนวัตกรรม เพิ่มค่าภูมิปัญญาท้องถิ่น ติดปีกข้าวอินทรีย์สู่สากล

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  เผยว่า  SME D Bank ในฐานะหน่วยร่วมดำเนินโครงการสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ของกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมขานรับขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน ช่วยยกระดับเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นำไปสู่ความยั่งยืน โดยปีนี้ (2568) ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อในโครงการดังกล่าวให้ได้กว่า 2,500 ล้านบาท ผ่าน 3 โครงการสินเชื่อ ได้แก่

โครงการสินเชื่อลดโลกร้อน (Decarbonize Loan) วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย  อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ใน 3 ปีแรก  ผ่อนนาน 7 ปี  โครงการสินเชื่อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถธุรกิจ (เสือติดปีก) วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3-5% ต่อปี ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน และโครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจ (คงกระพัน)  วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5-7% ต่อปี ผ่อนชำระนานสูงสุด 3 ปี  สามารถแจ้งความประสงค์ผ่านสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ทั่วประเทศ หรือผ่านออนไลน์ที่เว็บไซต์ thaismefund.com สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่าน Call Center 1357

นายพิชิต กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา สามารถสนับสนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้กว่า 13,700 ราย  วงเงินกว่า 25,650 ล้านบาท  ทั้งนี้ ด้วยจุดเด่นที่เป็นสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อยกระดับพัฒนาธุรกิจสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก้าวไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต  ทำให้มีส่วนผลักดันสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่   หนึ่งในนั้น คือ บริษัท ไรซ์แฟคทอรี่ จำกัด จ.นครพนม ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจเยี่ยมและชื่นชมกิจการ เมื่อเร็ว ๆ นี้

สำหรับ บริษัท ไรซ์แฟคทอรี่ จำกัด  บุกเบิกโดยนางสาวชบา ศรีสุโน   ลูกหลานชาวนาในหมู่บ้านเล็ก ๆ ของ จ.พนมนคร ยกระดับธุรกิจผลิต แปรรูปและจำหน่ายข้าวอินทรีย์ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย ช่วยเพิ่มมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นการผลิตข้าวฮางงอกอินทรีย์ ซึ่งมีสารกาบา (GABA) มากกว่าข้าวกล้องปกติถึง 30 เท่า ทั้งนี้ เมื่อได้รับเงินทุนจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ช่วยต่อยอดให้ธุรกิจขยายตลาดกว้างไกลทั้งในและต่างประเทศ ด้วยจุดเด่นเป็นสินค้าดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค ผู้ปลูก และสิ่งแวดล้อม รวมถึง ธุรกิจยังเป็นที่พึ่งของเกษตรกรในท้องถิ่น ช่วยให้มีอาชีพ มีรายได้ นำไปสู่สังคมแห่งความสุข สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน