โดย…ดลมนัส กาเจ
ในที่สุด “สมชาย บุญชื่น” เจ้าของ “สวนมะละกอฮอลแลนด์” ที่บ้านซับม่วง ต.ห้วยน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้พบกับสัจธรรมแห่งความเป็นจริงของอาชีพเกษตรกรรม ที่เขาเคยเพาะปลูกพืชมาสารพัดชนิด และแล้ว ณ วันนี้ เขาคอนเฟิร์มว่า “การปลูกมะละกอฮอลแลนด์” เป็นพืชที่สามารถสร้างรายได้ดีที่สุด หลังจากที่เขาทดลองเมื่่อ 4 ปีก่อน พบว่าปลูก 10 ไร่ สามารถสร้างรายได้ถึง 1,600,000 บาทต่อ 1 รอบ และเขายืนยันว่า เป็นพืชที่สร้างรายได้ดีที่สุด อย่างน้อยรายได้ไร่ละ 1 แสนบาท มาถึงวันนี้เขาจึงขยายพื้นที่ปลูกแล้วรวมกับครอบครัว 200 ไร่ แต่…กระนั้นการปลูกมะละกอฮอลแลนด์ เขายอมรับว่าต้องใสใจดูแลอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญยิ่งสำหรับมือใหม่ควรศึกษาหาความรู้ก่อน และให้สังเกตุง่ายๆหากจะปลูกในแปลงรายย่อยต้องห่างจากแปลงใหญ่ที่เขาปลูกมานานแล้ว เพราะที่นั่นคือแหล่งเจริญเติบของโรค และแมลงศัตรุพืชเป็นอย่างดี
กว่าจุถึงวันนี้ได้ สมชาย บอกว่า เคยปลูกไร่มาก่อนหลายชนิดทั้งอ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และก่อนจะมาปลูกมะละกอฮอลแลนด์ก็ปลูกกล้วยหอมทอง บังเอิญไปเห็นคนลูกมะละกอฮอลแลนด์ มีรายได้ดีทำให้เกิดความสนใจจึงได้ศึกษามาหลายๆด้าน รวมทั้งไปดูงานที่อื่นด้วย จากนั้นเริ่มปลูกมะละกอฮอลแลนด์ เมื่อ 4 ปีก่อนพบว่ามัรายได้ดี มีรอบหนึ่งฝนฟ้าเป็นใจ น้ำอุดมสมบูรณ์มะละกอฮอลแลนด์ของเขา 10 ไร่สามารถสร้างรายได้ถึงรอบละ 1,600,000 บาท จึงขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มจนปัจจุบันเขาปลูกมะละกอฮอลแลนด์ ร่วมกับครอบครัวของคุณพ่อกว่า 200 ไร่ ปีที่ผ่านมามะละกอฮอลแลนด์ราคาดีสร้างได้เป็นเป็นกอบเป็นกำให้ครอบครัว
สมชาย บอกอีกว่า การปลูกมะละกอฮอลแลนด์ แม้ราคาจะดีแต่การลงทุนก็สูงตกไร่ละ 2 หมื่บาท เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจะมีรายได้อย่างน้อยไร่ละ 1 แสนบาท ถ้าราคาปานกลางจะได้กำไรสุทธิอย่างน้อยไร่ละ 7 หมื่นบาท โดยที่ราคามะละกอฮอลแลนด์ที่เกษตรสามารถอยู่ได้และไม่ขาดทุนราคาต้อง กก.ละ 15 บาทขึ้นไป แต่ช่วงที่ผ่านมาราคาค่อนข้างสูงมากหน้าสวนมีการซื้อขายกันถึง กก.ละ 60 บาท เขาเองเคยโอกาสขายเพียงครั้งเดียวในราคา กก.40 บาท
“ปลูกมะละกอฮอลแลนด์ เป็นพืชที่มีรายมากที่สุดเท่าที่ปลูกพืชอย่างอื่นมา แต่ก็ปลูกไม่ง่ายหนัก ปัญหาเรื่องโรคแมลงต้องสู้พอสมควร เราต้องมีเวลาดูแลตลอด ผมจึงขอแนะนำเกษตรกรมือใหม่ที่จะปลูกมะละกอฮอลแลนด์ควรศึกษาหาความรู้ก่อนให้รอบด้านทั้งการจัดการดูแลและการตลาด ปลูกแล้วต้องมีที่ขาย ส่วนสถานที่ปลูกให้สังเกตุหลักง่ายๆ หากจะปลูกแปลงรายย่อยต้องห่างจากแปลงใหญ่ที่เขาปลูกมานานแล้ว เพราะที่นั่นคือแหล่งเจริญเติบของโรค และแมลงศัตรุพืชด้วย เมื่อปลูกได้รอบหนึ่งแล้ว ให้เปลี่ยนปลูกอย่างอื่น เพื่อตัดวงจรชวิตของแมลงศัตรูพืชแล้วค่อยกลับมาปลูกใหม่” สมชาย กล่าว (ชมรายละเอียดในคลิป)