กรมส่งเสริมการเกษตร ดันกาแฟบ้านปางปูเลาะ เป็น 1 ใน 6 ชนิดพืชที่ดำเนินการนำร่องในพื้นที่อำเภอแม่ใจ ตามโครงการพะเยาโมเดล เน้นพัฒนาด้านการผลิตกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่มีคุณภาพดี ส่วนการตลาดให้ขายแบบคัดเกรด และสร้างกาแฟอัตลักษณ์กาแฟที่หอมปลายมีกลิ่นลิ้นจีมากขึ้น หวังเข้าสู่ตลาด premium
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินงานโครงการพะเยาโมเดลสู่การพัฒนาศักยภาพสินค้าเกษตร โดยกำหนดให้กาแฟปางปูเลาะ อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา เป็น 1 ใน 6 ชนิดพืชที่ดำเนินการนำร่องในพื้นที่อำเภอแม่ใจ เน้นขับเคลื่อนนโยบายยกระดับสินค้าเกษตร เสริมศักยภาพเกษตรกร ด้วยการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกาแฟคุณภาพบ้านปางปูเลาะ ตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่ใจ
นายพีรพันธ์ คอทอง ลงพื้นที่บ้านปางปูเลาะ
ตั้งเป้าที่จะยกระดับประสิทธิภาพการผลิตกาแฟ ให้ได้ตามมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับกาแฟ (GAP) เพิ่มผลผลิต (เชอรี่) ต่อไร่จากเดิม เป็น 500 – 600 กิโลกรัมต่อไร่ ยกระดับคุณภาพผลผลิต ให้ได้มาตรฐานสินค้าเกษตร : เมล็ดกาแฟอะราบิก้า เช่น สีตรงกระบวนการผลิตของเมล็ดกาแฟ ความชื้นไม่เกิน 12.5 % โดยมวล ไม่พบร่องรอยการทำลายเมล็ดกาแฟจากแมลง เมล็ดมีราดำ เป็นต้น รวมทั้งส่งเสริมการทำการตลาดการซื้อขายล่วงหน้า และกำหนดราคาตามชั้นคุณภาพ
ทั้งนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้ใช้นโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็น กลยุทธ์ในการพัฒนา โดยการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตกาแฟ ตามมาตรฐานสินค้าเกษตรการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับกาแฟ การตรวจสอบปริมาณสารกาแฟ และคุณภาพทางห้องปฏิบัติการ เพื่อนำไปพัฒนาและยกระดับคุณภาพกาแฟ การตรวจวิเคราะห์ดิน และใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การตัดแต่งต้นกาแฟ (ทำสาว)
สำหรับต้นกาแฟอายุมากและให้ผลผลิตลดลง เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของกาแฟ การเฝ้าระวังโรคแมลงศัตรูพืชและการใช้ชีววิธีในการป้องกันและกำจัด โรค และแมลงศัตรูพืช เช่น มอดเจาะเมล็ดกาแฟ ราดำ มวนยุง เป็นต้น ส่วนด้านการตลาด จะดำเนินการส่งเสริมการทำการตลาดการซื้อขายล่วงหน้า และกำหนดราคาตามชั้นคุณภาพ การส่งเสริมการสร้างคู่ค้าใหม่ที่เป็นองค์กรธุรกิจ/สถาบันเกษตรกร โดยระบบเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Future Markets) ที่มีเงื่อนไขกำหนดราคาเมล็ดกาแฟตามชั้นคุณภาพ การส่งเสริมการสร้างทักษะการเป็นบาริสต้าให้เยาวชนของหมู่บ้าน และการสร้างแบรนด์สินค้ากาแฟชุมชนปางปูเลาะ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นกาแฟที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ
ปัจจุบันบ้านปางปูเลาะ มีพี่น้องเกษตรกรที่ปลูกกาแฟอยู่ 34 ครัวเรือน โดยเป็นสมาชิกวิสาหกิจชุมชน 20 ราย มีผลผลิตรวมปีละ 88 ตัน โดยมีประเด็นที่จะต้องพัฒนา 2 ประเด็น ซึ่งจะใช้เป็นแนวทางให้หลายๆ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนงานให้บรรลุเป้าหมาย ประเด็นแรก คือ ด้านการผลิต กาแฟปางปูเลาะเป็นกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่มีคุณภาพดีในระดับหนึ่ง แต่สามารถยกระดับคุณภาพได้โดยการพัฒนาให้เป็นกาแฟ specialty มีลักษณะเฉพาะรสชาติและกลิ่นผลไม้ (fruity) เช่น การทำให้มีความหอมปลายเป็นกลิ่นลิ้นจี่มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างอัตลักษณ์ให้กับอำเภอแม่ใจ และกาแฟปางปูเลาะได้ การพัฒนาให้เป็นกาแฟ specialty จะช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับกาแฟปางปูเลาะและมีโอกาสเข้าสู่ตลาด premium ได้
ประเด็นที่สอง คือ ด้านการตลาด ปัจจุบันเกษตรกรสามารถขายผลผลิตให้กับพ่อค้าคนกลาง หรือพ่อค้ารถเร่ ที่เข้ามารับซื้อในช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ในราคาที่พึงพอใจ แต่กาแฟปางปูเลาะยังสามารถพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีก เช่น การขายแบบคัดเกรด 1 – 3 จะทำให้ได้ราคาเพิ่มมากขึ้นตามระดับคุณภาพของสินค้า ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้กับเกษตรกรในการพัฒนาคุณภาพผลผลิตมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การสร้างและเรียบเรียงเรื่องราว (story) ของกาแฟปางปูเลาะก็จะช่วยสร้างความต่าง และอัตลักษณ์เฉพาะได้อีกทางหนึ่ง กรมส่งเสริมการเกษตร และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้ามาร่วมกันทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับกาแฟปางปูเลาะ มีความโดดเด่น เป็นที่จดจำ และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศ