โปรดเข้าใจไปในทางเดียวกัน “ธรรมนัส” ยืนยันอีกครั้งว่า ที่พันธุ์ข้าวไทยไม่ติดอันดับในการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลกในงาน “The World’s Best Rice 2023” ปีนี้เพราะไทยไม่ส่งเข้าประกวด เผยหน่วยงานที่ส่งเข้าประกวดเป็นกระทรวงพานิชย์ และสมาคมผู้ส่งออกข้าว
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเวทีข้าวไทย ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “อนาคตข้าวไทย : โอกาสและความท้าทาย” ณ ห้องประชุมสุธรรมอารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายรัฐกับอนาคตข้าวไทย” ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับข้าวซึ่งเป็นสินค้าเกษตรหลักของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถด้านการผลิตและการตลาดตลอดโซ่อุปทาน
ในส่วนที่พันธุ์ข้าวไทยไม่ติดอันดับในการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก The World’s Best Rice 2023 ในปีนี้นั้น ขอชี้แจงว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากปีนี้ประเทศไทยไม่ได้ส่งพันธุ์ข้าวเข้าประกวด ซึ่งหน่วยงานที่ส่งเข้าประกวดคือ กระทรวงพานิชย์ และสมาคมผู้ส่งออกข้าว สำหรับกรณีการลักลอบนำเข้าสายพันธุ์ข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาปลูกในไทยนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แม้จะปลูกได้ปริมาณที่มากกว่าหรือเท่ากัน แต่ขอให้คำนึงถึงคุณภาพและเป็นสำคัญ เนื่องจากสายพันธุ์ข้าวไทยมีอัตลักษณ์เฉพาะ ซึ่งกรมการข้าวต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับแก่เกษตรกร
อีกทั้งได้เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้สำหรับฤดูกาลผลิตหน้าแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญจะทำอย่างไรให้เมล็ดพันธุ์ข้าวมีคุณภาพดี ผลผลิตต่ำ กรมการข้าวจึงต้องตระหนักและมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ทนทานต่อโรค และตรงความต้องการของตลาดโลกเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วย
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.68 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 17 ล้านคน เนื้อที่เพาะปลูกข้าวนาปีและนาปรัง เฉลี่ยปีละ 70 – 71 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของเนื้อที่ทำการเกษตรทั้งประเทศ (149 ล้านไร่) มีผลผลิตข้าวประมาณ 31 – 32 ล้านตันข้าวเปลือกต่อปี หรือประมาณ 20 ล้านตันข้าวสาร โดยในปี 2565 ไทยส่งออกข้าวได้ 7.71 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 138,698 ล้านบาท และปี 2566 (ม.ค. – ก.ย.) ส่งออกได้แล้ว 6.08 ล้านตัน มูลค่า 117,590 ล้านบาท
สำหรับการประชุมเวทีข้าวไทย ประจำปี 2566 จัดโดย มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับภาคีองค์กรพันธมิตร ได้แก่ กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นถึงโอกาส ปัญหาและความท้าทายของเศรษฐกิจข้าวไทย นำไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืน เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการกำหนดทิศทางและสร้างยุทธศาสตร์ข้าว นำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวและชาวนาไทยให้ปรับตัวก้าวทันกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ