พลิกไร่กุหลาบมาปลูกทุเรียนหมอนทอง พืชทำเงินดีกว่าที่พบพระ

  •  
  •  
  •  
  •  

ดลมนัส กาเจ

ด้วยสภาพพื้นที่อยู่บนที่สูงที่ล้อมรอบด้วยยอดดอยที่สูงตระหง่าน ทำให้พื้นที่พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก กลายเป็นแหล่งปลูกพืชเมืองหนาวทดแทนการปลูกฝิ่นเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน โ่ดยเฉพาะกุหลาบหากใครไปพบพระเมื่อ 20 ปีก่อน จะแลเห็นดงกุหลายที่ชูช่อดอกบานสะพรั่งในฤดูหนาว และถือว่าเป็นแหล่งผลิตดอกกุหลาบมากที่สุดในประเทศไทย

ทว่า…ปัจจุบันวิถีเกษตรที่พบพระในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ตามสถานการการณ์ที่เปลี่ยนไปและตามกลไกลความต้องการของตลาดต่อสินค้าเกษตร จึงทำให้ดงกุหลาบในอดีตกลายเป็นเมืองอะโวคาโดและอาณาจักรทุเรียน ที่ปลูกกันเรียงรายตลอดแนวทางสองฝากฝั่งถนนที่จะมุ่งหน้าสู่ อ.ทาสองอย่าง จะแลเห็นแต่สวนทุกเรียน หากลึกเข้าไปตีนดอยจะเป็นสวนอะโวคาโดที่ปลูกมากถึง 7,000 ไร่ และมีแนวโน้มขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“เรวัฒน์ โตเลี้ยง” เจ้าของสวนมาลัยทอง ที่บ้านนกแล ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ก็อีกคนหนึ่งที่เคยปลูกกมาก่อนในพื้นที่ราว 200 ไร่ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อที่ย้ายมาจากนครปฐม มาบุกเบิกปลูกกุหลาบมาตั้งแต่ปี 2539 จนทำให้พบพระกลายเป็นแหล่งปลูกกุหลาบแหล่งใหญ่ของประเทศมายาวนาน จนสถานการณืเปลี่ยนไป กุุหลาบจากจีนทะทักเข้ามาตีราคาที่ถูกว่า ทำให้ดอกกุหลายพบพระราคาต่ำลง เขาจึงเปลี่ยนมาสวนส้มเขียวหวาน  ปาล์มน้ำมันสลับกันไปจนเทรนด์อะโวคาโดมาแรง เขาหันมาปลูกอะโรคาโด 70 ไร่

 

“เมื่อ 7 ปีก่อนที่พบพระเริ่มปลูกทะเรียน ตอนนั้นราคาไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ก็รายได้ดีกว่าปลูกกุหลาบ ผมจึงหันมาทุเรียนบ้าง ต่อมาทุเรียนราคาดีขึ้นเรื่อยๆ ผมขยายพื้นที่ปลูก 100 ไร่ เป็นหมอนทอง และมูซังคิงบ้าง ปีที่แล้วได้ 30 ตัน ขายราคา กกละ 120 บาท พบว่าวันนี้ทุเรียนสร้างรายได้มากที่สุด” เรวัต กล่าว (รายละเอียดในคริบ)

สนใจสัมผัสวิถีเกษตรยุคใหม่ที่พบพระ ชมรมสื่อเกษตรดิจิทัลจัดโครงการเกษตรทัศนศึกษาที่ อ.พบพระ เรียนรู้การปลูก ขยายพันธุ์อะโวคาโดเพื่อการค้า ชิมทุเรียนพบพระ ชมการปลูกมะกอทำเงินล้าน กล้วยหอมทอง และไปกินเงาะถึงในสวน ระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2566 สอบถามได้ที่  0897835887(หนึ่ง) 0936971456(เป้)