ญี่ปุ่นอนุญาตให้ไทยส่งออกผลมังคุดสดไม่ต้องอบไอน้ำเพื่อกำจัดแมลงวันผลไม้ลงใน Official Gazetteแล้ว เริ่มทันทีภายในเดือนสิงหาคม 2566 นี้เพิ่มมูลค่าการส่งออกปีละ 200 ตัน มูลค่า 120 ล้านบาท แนะผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ ต้องแจ้งความประสงค์ไปยังกรมวิชาการเกษตร เพื่อขอเข้าร่วมการส่งออกพร้อมยื่นรายชื่อสวนมังคุดที่จะส่งออกไปยังญี่ปุ่นภายใต้มาตรการใหม่นี้
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้รับแจ้งข่าวดี จาก นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ว่า กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และ ประมงญี่ปุ่น (MAFF) อนุญาต ไทยส่งออกผลมังคุดสดไปญี่ปุ่น โดยไม่ต้องอบไอน้ำ ซึ่งเป็นการบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการอำนวยความสะดวกทางการค้า ในการประขุมคณะอนุกรรมการพิเศษร่วมในความร่วมมือด้านความปลอดภัยอาหาร ภายใต้กรอบ JTEPA ครั้งที่ 13 ณ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566
![](https://kasettumkin.com/wp-content/uploads/011-2.jpg)
ระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์
ในการประชุมครั้งนี้ ญี่ปุ่นแจ้งข่าวดีว่า ได้ออกประกาศเงื่อนไขอนุญาตนำเข้ามังคุดไทยโดยไม่ต้องอบไอน้ำ กำจัดแมลงวันผลไม้ลงใน Official Gazette พร้อมทั้งแจ้งกำหนดการเดินทางมาตรวจรับรองก่อนการส่งออกครั้งแรกในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคม ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถส่งออกมังคุดสดด้วยวิธีการใหม่ที่ไม่ต้องผ่านการอบไอน้ำไปยังญี่ปุ่นได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและส่งออกมังคุดไทยแล้ว ยังช่วยคงความสดใหม่ และไม่สร้างความเสียหายของผลมังคุด ช่วยเพิ่มอายุการเก็บรักษาให้ยาวนานขึ้น อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าตลาดส่งออกให้กับมังคุดผลสดไทย ประมาณปีละ 200 ตัน มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จในการเจรจาครั้งนี้ ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่เกิดจากการบูรณาการร่วมกันระหว่าง กรมวิชาการเกษตรที่กำกับดูแลการส่งออกสินค้าพืช และ มอกช. ที่ได้หารือและดำเนินงานอย่างใกล้ชิตร่วมกับฝ่ายญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ผ่านกลไกเจรจาที่สำคัญทั้งภายใต้กรอบความร่วมมือ JTEPA และกลไกทางเทคนิคของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยส่งออกมังคุดผลสดไปญี่ปุ่น ด้วยวิธีอบไอน้ำ ซึ่งเป็นวิธีกำจัดแมลงศัตรูพืชด้วยความร้อน ซึ่งได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกักกันพืช ภายใต้กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น (MAFF) สำหรับใช้กำจัดไข่ และ หนอนของแมลงวันผลไม้ Bactrocera dorsalis species complex แต่วิธีการนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายกับมังคุด โดยลักษณะความเสียหายที่สำคัญมีหลายอาการได้แก่ อาการเนื้อยุบตัวลงเป็นหลุม เนื้อแตกเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำ เนื้อเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และผลแข็ง ไม่น่ารับประทาน
![](https://kasettumkin.com/wp-content/uploads/7_0.jpg)
กรมวิชาการเกษตร จึงได้เจรจากับ MAFF โดยยื่นหนังสือพร้อมเอกสารทางวิชาการเกี่ยวกับผลการศึกษาสถานภาพการไม่เป็นพืชอาศัยของมังคุดต่อแมลงวันผลไม้ ซึ่งได้ทำการวิจัยนำทีมโดยนายอุดร อุณหวุฒิและคณะ เพื่อพิจารณายอมรับมาตรการทางเลือกใหม่ (Conditional non-hot status to fruit flies) สำหรับการส่งออกผลมังคุดสดไปญี่ปุ่นโดยไม่ต้องกำจัดแมลงศัตรูพืชด้วยความร้อน สำหรับมาตรการใหม่ คาดการณ์ว่าไทยจะสามารถส่งออกผลมังคุดสดได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากวิธีการใหม่ ไม่สร้างความเสียหายให้กับผลมังคุดสดเหมือนกับวิธีการเดิม ซึ่งในการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนการส่งออก ฝ่ายไทยต้องทำตามเงื่อนไขข้อตกลง (work plan) ระหว่างไทยและญี่ปุ่น
สำหรับเกษตรกรชาวสวนมังคุด และ โรงคัดบรรจุ ที่มีความสนใจในการส่งออกมังคุดด้วยมาตรการทางเลือกใหม่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน คือ ผลมังคุดสดที่จะส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นจะต้องมาจากสวนที่ปลูกเพื่อการค้าและได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร ผู้ผลิตมังคุดต้องมีการจัดการสวนและการเก็บเกี่ยวมังคุดผลสดตามมาตรฐานการผลิตเพื่อการค้าสำหรับส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น มีสุขอนามัยในสวนที่ดี มีการจัดการศัตรูพืชที่เหมาะสม รวมทั้งต้องยื่นขอการรับรองการตรวจรับรองสวนเพื่อการส่งออกไปญี่ปุ่นและผ่านการอบรมการส่งออกมังคุดผลสดภายใต้มาตรการทางเลือกใหม่จากกรมวิชาการเกษตร
![](https://kasettumkin.com/wp-content/uploads/20-11.jpg)
ส่วนผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ จะต้องแจ้งความประสงค์ไปยังกรมวิชาการเกษตร เพื่อขอเข้าร่วมการส่งออกพร้อมยื่นรายชื่อสวนมังคุดที่จะส่งออกไปยังญี่ปุ่นภายใต้มาตรการใหม่ และขอรับการขึ้นทะเบียนโรงคัดบรรจุกับกรมวิชาการเกษตร โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที กลุ่มวิจัยการกักกันพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 02-9406670 ต่อ 142