“ผักสวนครัว” …ซีพีเอฟเพาะกล้าจากใจ ให้น้องๆ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน วัดดาวดึงษาราม เข้าถึงผักปลอดภัย

  •  
  •  
  •  
  •  
“ผมอยากให้เด็กๆได้รู้ว่า ผักที่นำมาทำเป็นอาหาร ให้เขาได้ทานในทุกวันนั้น เมื่อก่อนเราเคยซื้อจากตลาด แต่เราไม่รู้ว่าผักนั้นปลอดภัยไหม เพราะไม่รู้แหล่งที่มา ซึ่งก่อนนี้เราไม่ได้สอนให้เด็กๆปลูกผักหรือได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมว่าทุกวันนี้สิ่งที่ขาดหายไปคือ การลงมือทำ ต่อเมื่อพอได้ทำแล้ว ผลสุดท้ายได้เกิดประโยชน์ นี่คือความภูมิใจของครูทุกคน”
ด้านหลังศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน วัดดาวดึงษาราม เขตบางพลัด บริเวณแปลงผักขนาด 5 ตารางเมตร ที่ถูกแบ่งเป็นมุมปลูกไว้อย่างเป็นระเบียบ ฟากหนึ่งเป็นแปลงผักพืชสมุนไพร ทั้งกะเพรา โหระพา พริกขี้หนู ข้างๆกันเป็นแปลงปลูกฟักทองที่กำลังติดออกดอกออกผล ขณะที่
อีกมุมเป็นกระบะเพาะพันธุ์ผัก มีคะน้าต้นอ่อนกำลังแข่งกันโต โดยมีน้องๆก่อนวัยเรียน ที่ต่างง่วนกับการเก็บต้นอ่อนคะน้าสำหรับเมนูกลางวัน ข้าวผัดไก่กับไข่ใส่ผักคะน้า ที่น้องๆเรียกว่า เบบี้คะน้า ทุกคนแย่งกันเล่าว่าชอบกินเบบี้คะน้ามากๆ เพราะไม่มีรสขมเลย บางวันครูปัทแม่ครัวคนเก่ง ก็ทำบะหมี่ผัดใส่ไส้กรอกกับคะน้าแสนอร่อยให้ทานด้วย
น้องมะนาว บอกว่า หนูได้ปลูกผักเองสนุกมาก ได้พาเพื่อนๆมาดูแลแปลงผักของพวกเรา และมีความสุขที่ได้กินผักที่ปลูกเอง หนูชอบกินข้าวผัดใส่ผักคะน้าอร่อยมาก กินด้วยความสุข เพราะเป็นผักปลอดสาร ปลอดภัย ขอบคุณครูเชาว์ที่หาผักปลูกให้เรา ทำให้เราได้กินผักสะอาด หนูจะรักษาแปลงผักนี้ไว้ และขอบคุณพี่ๆที่มาปลูกผักนี้ให้พวกหนู
ครูเชาว์-เชาวลิต สาดสมัย ครูอาสาศูนย์สร้างโอกาสสะพานพระราม 8 และครูผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน วัดดาวดึงษาราม  บอกว่า ขอบคุณทางซีพีเอฟ โดยทีมจิตอาสาจากชมรมบำเพ็ญประโยชน์ มาช่วยกันปรับปรุงพื้นที่จากตรงนี้เป็นที่ดินว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย บริษัทก็มาช่วยทำแปลงผัก อย่างน้อยก็ทำให้เด็กได้ลงมือ การให้เขาได้รู้จักว่าผักมาจากไหน  ทำไมเราถึงปลูกผักเอง และเวลาได้เห็นพวกเขามาเก็บผักกันเองก็รู้สึกว่าพวกเขามีความสุข ที่ได้เก็บเกี่ยวในสิ่งที่เขาปลูกและดูแลเอง และสามารถนำไปทำให้เกิดประโยชน์ นำไปปรุงอาหารให้เด็กๆทั้ง 30 คน ได้รับประทาน
 “สิ่งสำคัญคือ ผมอยากให้เด็กๆได้รู้ว่า ผักที่นำมาทำเป็นอาหาร ให้เขาได้ทานในทุกวันนั้น เมื่อก่อนเราเคยซื้อจากตลาด แต่เราไม่รู้ว่าผักนั้นปลอดภัยไหม เพราะไม่รู้แหล่งที่มา ซึ่งก่อนนี้เราไม่ได้สอนให้เด็กๆปลูกผักหรือได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมว่าทุกวันนี้สิ่งที่ขาดหายไปคือ การลงมือทำ ต่อเมื่อพอได้ทำแล้ว ผลสุดท้ายได้เกิดประโยชน์ นี่คือความภูมิใจของครูทุกคน วันนี้เมื่อมีแปลงผักที่ซีพีเอฟสนับสนุน เด็กๆก็ได้มีโอกาสปลูกผักเอง เมื่อเขาได้ทำเอง ได้ชวนเพื่อนจูงมือกันมาถอนหญ้า รดน้ำ และสามารถเก็บผักต้นไหนก็ได้ตามแต่ที่เขาต้องการ ให้เป็นธรรมชาติของเขา หลังเก็บผักเขาจะถามทันทีว่าเป็นผักอะไร ถือเป็นการเรียนรู้เรื่องชนิดเรื่องพันธุ์ผักอีกทางหนึ่งด้วย” ครูเชาว์ บอก
ครูเชาว์เล่าที่มาของแปลงผักปลอดภัยนี้ว่า หลังจากพิจารณาดูว่า ที่ศูนย์ฯมีพื้นที่ว่าง น่าจะทำประโยชน์ได้ สุดท้ายจึงเสนอกับซีพีเอฟ ที่มีโครงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนฯ และสร้างห้องซักผ้าให้ศูนย์สร้างโอกาสพระราม 8 อยู่แล้ว เพื่อให้ทำแปลงผักเพิ่ม เพื่อให้เด็กๆได้ทำด้วยตัวเอง ให้พวกเขาได้รู้ว่า สิ่งที่ปลูกนั้นรับประทานได้ และมีความปลอดภัยด้วย สุดท้ายเด็กก็ได้เรียนรู้ ได้สัมผัสสิ่งที่ตัวเองปลูก ขณะเดียวกันครูเองก็ได้ลงมือพร้อมกันและได้สอนเด็กๆ ครูทั้งสามคนก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย
ผักสวนครัวที่เติบโตจนสามารถเก็บผลผลิตได้นี้ เกิดจากพลังและความตั้งใจของผู้บริหารและทีมงานจิตอาสา ที่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ร่วมกันเพาะกล้าจากใจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมช่วยเหลือสังคม และการส่งมอบกำลังใจเพื่อสนับสนุนการทำงานและความตั้งใจของ ครูเชาว์-เชาวลิต สาดสมัย และทีมงานที่ดูแล เด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุและคนพิการใน 12 ชุมชนบริเวณสะพานพระราม 8 ซึ่งบริษัทจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมดีๆเช่นนี้ต่อไป เพื่อให้น้องๆ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน วัดดาวดึงษาราม ได้เข้าถึงผักปลอดภัยจากฝีมือของพวกเขาเอง