กรมส่งเสริมการเกษตร แนะ 5 ประการเลือกพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ดี

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมส่งเสริมการเกษตร แนะ 5 ประการเลือกพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ดี ย้ำก่อนการตัดสินใจซื้อ เกษตรกรควรสอบถามข้อมูลและตรวจสอบแหล่งที่มาของพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากผู้ผลิต เลือกซื้อจากแหล่งผลิตที่ถูกหลักวิชาการน่าเชื่อถือ เป็นแปลงเพาะกล้าที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร เป็นหลัก

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ปาล์มน้ำมันถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะในแถบภาคใต้ที่เกษตรกรนิยมปลูกกันมาก ประกอบกับเป็นพื้นที่มีความเหมาะสมต่อการเพาะปลูก (S1) ตามระบบ Agri-Map พื้นที่ปลูกที่สำคัญ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช ตรัง พังงา สตูล พัทลุง และจังหวัดระนอง คิดเป็นร้อยละ 82.97ของพื้นที่ปลูกทั้งหมด

ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันรวมทั้งสิ้น 6.15 ล้านไร่ ให้ผลผลิตได้รวม 18.41 ล้านตัน/ปี สร้างมูลค่า 146.40 ล้านบาท/ปี ปาล์มน้ำมันเป็นพืชยืนต้น ที่ต้องใช้เวลา 3 ปี ถึงจะให้ผลผลิต เกษตรกรจึงควรเลือกใช้พันธุ์ดีในการปลูก เพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพดีและมีปริมาณที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้คุ้มกับการลงทุน เกษตรกรจำเป็นต้องมีความรู้อย่างน้อย 5 ประการ คือ ประการที่ 1 ต้องรู้จัก ตัวตนของปาล์ม ประการที่ 2 ต้องรู้จักสภาพพื้นที่ที่ปาล์มชอบ ประการที่ 3 ต้องรู้จักวิธีการดูแลรักษา ประการที่ 4 ต้องรู้จักการใช้ปุ๋ย และประการที่ 5 ต้องรู้จักวิธีการเก็บเกี่ยว

นายเข้มแข็ง กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกซื้อต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพ ก่อนการตัดสินใจซื้อ เกษตรกรควรสอบถามข้อมูลและตรวจสอบแหล่งที่มาของพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากผู้ผลิต เลือกซื้อจากแหล่งผลิตที่ถูกหลักวิชาการน่าเชื่อถือ เป็นแปลงเพาะกล้าที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ซึ่งจะมีป้ายข้อความ “แปลงจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมัน/ ต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ได้รับการรับรองโดยกรมวิชาการเกษตร” อยู่ด้านหน้าแปลง พร้อมทั้งหาผู้ผลิตที่สามารถให้คำรับรองพันธุ์ มีหนังสือสัญญาซื้อขาย และมีหลักฐานใบเสร็จรับเงินจากผู้ผลิตเป็นหลักฐาน

สำหรับต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำ คือ ปาล์มน้ำมันพันธุ์เทเนอรา (Tenera) ที่เป็นพันธุ์ลูกผสมที่ใช้ต้นแม่พันธุ์ดูรา ซึ่งผลมีกะลาหนา กับต้นพ่อพิสิเฟอรา ซึ่งผลไม่มีกะลา หรือกะลาบางมาก และรอบเมล็ดจะมีเส้นใยล้อมรอบ ทำให้ได้ลูกผสมเทเนอราที่ผลจะมีกะลาบางและมีเส้นใยสีน้ำตาลล้อมรอบให้ผลผลิตและเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงนั่นเอง

โดยวิธีการเลือกซื้อพันธุ์ปาล์มน้ำมันให้ดี ควรเลือกต้นกล้าที่มีอายุ 8 – 12 เดือนขึ้นไป มีลักษณะสมบูรณ์แข็งแรง ทรงต้นแผ่กว้าง ไม่สูงชะลูด โคนต้นอวบ สมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีต้นกล้าที่มีลักษณะผิดปกติปะปนมา เช่น ในระยะอนุบาลแรก (pre – nursery) อายุ 2 – 4 เดือน จะมีลักษณะยอดและใบบิดเบี้ยว ใบขดม้วนรอบเส้นกลางใบ ใบเรียวแคบ ใบกึ่งกลางคอด และต้นแคระแกร็น หรือในระยะอนุบาลหลัก (Main – nursery) อายุตั้งแต่ 8 เดือนขึ้นไป จะมีลักษณะใบย่อยไม่คลี่ ใบขนนกไม่คลี่เป็นใบย่อยหรือคลี่บางส่วน ใบเกิดใหม่สั้น กาบใบแน่น ทางใบตก และต้นอ่อนแอ อันเป็นลักษณะที่ส่งผลให้ต้นเจริญเติบโตและพัฒนาช้ากว่าปกติ ทั้งขนาดเล็ก แคระแกร็น ซึ่งจะส่งผลให้ผลผลิตที่ได้ต่ำมาก

หากเกษตรกรท่านใดต้องการคำแนะนำในการเลือกซื้อ วิธีการดูแลรักษา การใช้ปุ๋ย และวิธีการเก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมัน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้านท่าน