ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์
กรมการข้าว เตรียมมาตรการช่วยเหลือชาวนาที่ประสบน้ำท่วม เบื้องต้นยึดหลักเกณฑ์ปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ให้ความช่วยเหลือ ไร่ละ 1,340 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ พร้อมเร่งเยียวยาหลังน้ำท่วมด้วยการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวละไม่เกิน 10ไร่ๆละ 7 กิโลกรัมสำหรับนาดำ และไร่ละ 15 กิโลกรัมที่เป็นนาหว่าน แนะพื้นที่น้ำท่วมฉับพลับซ้ำซากให้ใช้พันธุ์ข้าว 51
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ทางนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ซึ่งรวมไปถึงพี่น้องชาวนา กระทรวงเกษตรฯ จึงได้มอบหมายให้กรมการข้าว และกรมส่งเสริมการเกษตร ประสานความร่วมมือในการเยียวยาชาวนา
ทั้งนี้จะยึดตามหลักเกณฑ์ปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 หลังจากประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติประเมินพื้นที่ที่ได้รับความเสียอย่างสิ้นเชิง ซึ่งพี่น้องชาวนาจะได้รับความช่วยเหลือ ไร่ละ 1,340 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ อย่างไรก็ตามกิจกรรมของเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยหลังจากน้ำลดทั้งในพื้นที่ชลประทาน และพื้นที่นอกเขตชลประทาน ภาครัฐฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องมีการติดตามให้คำแนะนำและดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป สำหรับปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่กรมการข้าวให้ความช่วยเหลือนั้นจะสนับสนุนให้เกษตรกรรายละไม่เกิน 10ไร่ๆละ 7 กิโลกรัม (นาดำ) และไร่ละ 15 กิโลกรัม (นาหว่าน)
“ผมได้สั่งการให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและศูนย์วิจัยข้าวในพื้นที่ประสานความร่วมมือกับเกษตรตำบล เกษตรอำเภอ และเกษตรจังหวัด ในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกำชับให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือ ให้คำแนะนำพี่น้องชาวนา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในครั้งนี้” นายณัฏฐกิตติ์ กล่าว
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมฉับพลับอยู่เป็นประจำ เกษตรกรควรใช้พันธุ์ข้าวทนน้ำท่วมฉับพลัน คือพันธุ์กข 51 และในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก แนะนำให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวในระยะน้ำนมเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์แทน