กรมชลประทาน รณรงค์ทุกภาคส่วนช่วยใช้น้ำอย่างประหยัด เผยปีนี้อ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีน้ำใช้การได้ 32,822 ล้าน ลบ.ม. ใช้ไปแล้ว 8,186 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 37 ขณะที่การทำนาปรัง ปี 2564/65 เกษตรกรปลูกข้าวไปแล้ว 4.05 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของแผนฯ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (11 ม.ค. 65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 56,753 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีน้ำใช้การได้ 32,822 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 8,186 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 37 ของปริมาณน้ำใช้การได้ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 13,688 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 6,992 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 1,999 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 35
สำหรับผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี 2564/65 ทั้งประเทศเพาะปลูกข้าวไปแล้ว 4.05 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของแผนฯ เฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา เพาะปลูกไปแล้ว 2.80 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 99 ของแผนฯ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทาน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ให้ใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติสนับสนุนการเกษตรก่อน จากนั้นจะใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำช่วยเสริม พร้อมกับเดินหน้าตามมาตรการรับมือการขาดแคลนน้ำ ปี 64/65 ทั้ง 8 มาตรการอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำน้ำอุปโภคบริโภค ต้องเพียงพอตลอดทั้งปี
ที่สำคัญให้ทำการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ รวมทั้งขอความร่วมมือเกษตรกร และประชาชนทุกภาคส่วน ให้ตระหนักถึงปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด และร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด รู้คุณค่า รวมทั้งควบคุมการเพาะปลูกข้าวนาปรังให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพื่อลดความเสี่ยงปัญหาขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต