กรมวิชาการเกษตร เตือนชาวสวนทุเรียนภาคตะวันออกช่วงเดือนมกราคม เฝ้าระวัง 3 โรครุมทุเรียนระยะพัฒนาผล แนะให้หมั่นสำรวจสวนและป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ ระบุต้องให้น้ำใส่ปุ๋ยให้เพียงพอ พร้อมใช้เชือกโยงกิ่งและผลป้องกันผลร่วงและลำต้นหักโค่น
นายศรุต สุทธิอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ทุเรียนเป็นเศรษฐกิจที่สร้างรายให้กับเกษตรกรปลูกมากในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ แต่ปัญหาการผลิตทุเรียนที่สำคัญของชาวสวนทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้คือการระบาดของโรคทุเรียนซึ่งในรอบ 12 เดือนจะมีการระบาดของโรคทุเรียนที่แตกต่างกันตามระยะการเจริญของทุเรียนและสภาพอากาศ
ทำให้เกษตรกรจะใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืชเป็นจำนวนมากทั้งได้ผลและไม่ได้ผลขึ้นอยู่กับความเข้าใจในการปฏิบัติดูแลของเกษตรกรแต่ละราย เนื่องจากการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชอย่างมีประสิทธิภาพนอกจากต้องรู้จักชนิดของโรคพืชแล้วระยะการเจริญเติบโตของพืชก็มีความจำเป็นที่ต้องนำพิจารณาด้วยเช่นกัน เพื่อพิจารณาเลือกชนิดของสารป้องกันกำจัดโรคพืชให้เหมาะสม ใช้กับเชื้อให้ถูกชนิด ถูกประเภทและถูกวิธี ส่วนอัตราการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชต้องเป็นไปตามคำแนะนำบนฉลาก
ในช่วงเดือนมกราคมทุเรียนในภาคตะวันออกจะอยู่ในช่วงระยะพัฒนาของผล ซึ่งโรคทุเรียนที่พบการระบาดในช่วงเดือนมกราคมมีหลายโรคที่สำคัญ เช่น โรครากเน่าและโคนเน่า โรคราแป้ง และโรคใบจุดใบไหม้ จึงขอแนะนำให้เกษตรกรหมั่นสำรวจสวนอย่างสม่ำเสมอ
หากพบการระบาดของโรครากเน่าและโคนเน่าให้ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนำไปทำลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิวเปลือกบริเวณที่เป็นโรคออก แล้วทาแผลด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช โดยสามารถใช้ตามคำแนะนำในการป้องกันกำจัดโรครากเน่าและโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เมทาแลกซิล 25% WP อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
นอกจากนี้ในช่วงที่อากาศแห้งแล้งและเย็นอาจพบการระบาดของโรคราแป้ง ให้พ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืช ไพราโซฟอส 29.4% W/VEC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ส่วนโรคใบจุด ใบไหม้พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่จะพบมากในช่วงฤดูแล้งหากพบอาการของโรคให้พ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
สำหรับการให้น้ำในช่วงเริ่มติดผลได้ 1 สัปดาห์ให้ค่อยๆ เพิ่มปริมาณการให้น้ำขึ้นเรื่อย ๆ และสามารถให้น้ำในอัตราปกติหลังการติดผล 3 สัปดาห์ โดยการให้น้ำต้องให้อย่างเพียงพอและสม่ำเสมอตลอดช่วงพัฒนาการของผลทุเรียน และให้ใส่ปุ๋ยหลังการตัดแต่งผลครั้งสุดท้ายเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของผล โดยใส่ปุ๋ยเมื่อผลมีอายุ 7 สัปดาห์ ร่วมกับการพ่นโพแทสเซียมไนเตรท เพื่อควบคุมการแตกใบอ่อน ตัดแต่งผลที่มีพัฒนาการผิดปกติ มีขนาดเล็ก หนามแดง หรือมีโรคแมลงเข้าทำลายให้ตัดทิ้ง และควรมีการโยงกิ่งและผลทุเรียนเพื่อป้องกันการการหักโค่นของลำต้นและผลร่วง
อย่างไรก็ตาม วิธีการที่ได้ผลที่สุดในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช คือ การใช้วิธีแบบผสมผสาน เช่น การทำเขตกรรม ใช้พันธุ์ต้านทานเพื่อลดการเกิดโรค บำรุงดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของพืช กำจัดวัชพืช ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง กำจัดส่วนที่เป็นโรค เพื่อลดประชากรของเชื้อสาเหตุ