สวก. ร่วมกับ สมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เตรียมเปิดตัวเมล็ดข้าวพันธุ์ “หอมแม่โจ้ 9” เพื่อผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์หลัก ในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันว่าฯนี้ ชี้จุดเด่นใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิ แต่ดีกว่าข้าวปทุมธานี 1 ปลูกได้ทุกฤดู ต้นเตี้ยต้านทานการหักล้ม ให้ผลผลิตสูงถึง 700 กิโลกรัมต่อไร่ มั่นใจสู้ข้าวพื้นนุ่มของเวียดนามได้ในอนาคต
รายงานข่าวจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. แจ้งว่า จากการที่ สกว.ได้กับ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ทำการมีการวิจัยพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวใหม่จนประสบผลสำเร็จ และล่าสุดได้มีการลงนามข้อตกลงกับสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อขอใช้สิทธิ พร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีผลงานวิจัยพันธุ์ข้าวเพื่อผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวสู่เกษตรกร และได้ทำการเปิดตัวเมล็ดข้าวพันธุ์ใหม่ “หอมแม่โจ้ 9” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์หลัก ส่งต่อข้าวพันธุ์ดีถึงมือเกษตรกรนำไปขยายพันธุ์ต่อ
รายงานระบุว่า การที่ สกว.ร่วมกับพันธมิตรทำการได้มีการวิจัยพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวจนได้สายพัยธุ์ “หอมแม่โจ้ 9 ” ในครั้งนี้เกิดจากที่มองว่า ข้าวเป็นอาหารและสินทรัพย์ที่มีค่าอย่างยิ่งในประเทศไทย ทั้งเรื่องการอุปโภคและบริโภคภายในประเทศ การส่งออกข้าวไทยติดอันดับระดับโลกมาโดยตลอด แต่เนื่องด้วยปัญหาต่างๆ ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เช่นผลผลิตตกต่ำ อุบัติภัยต่างๆต้นทุนในการผลิตสูง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสายพันธุ์ข้าวบางชนิดที่ไม่ทนโรคและแมลงใช้ระยะเวลาผลิตที่นานเกินไป หรือให้ผลผลิตน้อย ก่อให้เกิดการเสียโอกาสทางการค้า
ฉะนั้นการวิจัยพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ การดูแล รวมถึงการส่งออก จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนและแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรภายในประเทศ ให้เกษตรกรสามารถทำอาชีพปลูกข้าวได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้นโดยประเทศไทยมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวพื้นนุ่มและให้การรับรองแล้วหลายพันธุ์ แต่ยังไม่นิยมปลูกเป็นที่แพร่หลายมากนัก เนื่องจากผลผลิตน้อยทำให้ต้นทุนสูงไม่สามารถแข่งขันกับข้าวเวียดนามได้
จากปัญหาดังกล่าว สวก. เล็งเห็นและให้ความสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์จึงสนับสนุนทุนวิจัยแก่หน่วยความเป็นเลิศทางด้านการวิจัยและพัฒนาการปรับปรุงพันธุ์ข้าว คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยใช้เวลาปรับปรุงพันธุ์ 8 ปี ภายใต้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท จนสามารถพัฒนาเป็นพันธุ์ข้าวพื้นนุ่มสายพันธุ์“หอมแม่โจ้ 9”ขึ้นมา
สำหรับ “ข้าวหอมแม่โจ้ 9 ” มีจุดเด่นในเรื่องคุณภาพเมล็ดทางกายภาพ และคุณภาพทางเคมี ใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิ และดีกว่าข้าวปทุมธานี 1 ไม่ไวต่อช่วงแสง สามารถปลูกได้ทุกฤดู เป็นข้าวต้นเตี้ยต้านทานการหักล้ม ให้ผลผลิตสูงถึง 700 กิโลกรัมต่อไร่ สามารถสร้างโอกาสในการแข่งขันกับข้าวพื้นนุ่มของเวียดนามได้ในอนาคต
จากจุดเด่นเหล่านี้ ส่งผลให้สมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของข้าวพันธุ์ “หอมแม่โจ้ 9” จึงได้ลงนามเพื่อขอใช้สิทธิ พร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีผลงานวิจัยพันธุ์ข้าวเพื่อผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวสู่เกษตรกรจึงเป็นที่มาของการเปิดตัวข้าวพันธุ์ “หอมแม่โจ้ 9” ในวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2564 เวลา 9.00 น. ณ ที่ทำการสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อนำมาขยายผลก่อนส่งต่อข้าวพันธุ์ดีมีคุณภาพไปยังเกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวต่อไป