“สมศักดิ์”ชี้ปลูก “กระท่อม” 1 ไร่ได้ปีละกว่า 1.6 ล้านบาท

  •  
  •  
  •  
  •  
สมศักดิ์ เทพสุทิน” โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊คสวนตัว “สมศักดิ์ เทพสุทิน” พร้อมกราฟิคสวยงาม ระบุว่า กระท่อมขณะนี้ราคากิโลกรัมละ 300-500 บาท 1 ต้นจะเก็บเกี่ยวใบได้ประมาณ 216 กิโลกรัมต่อปี ปลูก 1 ไร่จะได้ประมาณ 25 ต้น ผลผลิต 5,400 กิโลกรัม เป็นเงินประมาณ 1,620,000 บาท
     นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊คสวนตัว “สมศักดิ์ เทพสุทิน” พร้อมกราฟิคสวยงาม ระบุถึงการปลูกกระท่อมอย่างน่าสนใจ จึงขออนุญาต เผยแพร่ต่อ โดยนายสมศักดิ์ ระบุว่า …
     “วันนี้ผมได้ไปบรรยายพิเศษในหัวข้อ อนาคตพืชกระท่อม หลัง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ที่รัฐสภา การปลดล็อกพืชกระท่อมต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นจะเสียโอกาส เราต้องมีแนวทาง เป้าหมายการปลูก ความเหมาะสมของปริมาณอย่างชัดเจน พืชกระท่อมมีประโยชน์ทางการแพทย์หลายอย่างมาก รวมทั้งยังเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ซึ่งที่ผ่านมาในอดีตมีการใช้ใบกระท่อมเพื่อเคี้ยวแทนสำหรับผู้ที่ติดฝิ่น”
    ในเฟสบุ๊ค ระบุอีกว่าพืชกระท่อมไม่ได้ติดสัญญาบัญชียาเสพติดระหว่างประเทศ ทำให้เราปลดล็อกได้ง่ายกว่า กัญชงและกัญชา ที่ติดอยู่ในบัญชี ถ้ามองถึงตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจ พืชกระท่อมขณะนี้ราคากิโลกรัมละ 300-500 บาท 1 ต้นจะเก็บเกี่ยวใบได้ประมาณ 216 กิโลกรัมต่อปี หากปลูกบ้านละ 3 ต้น จะได้ปีละ 648 กิโลกรัม หากตีเป็นเงินจะได้ประมาณ 194,000 บาทต่อปี และหากปลูก 1 ไร่จะได้ประมาณ 25 ต้น ผลผลิต 5,400 กิโลกรัม เป็นเงินประมาณ 1,620,000 บาท”
     “ตลาดโลกที่รับซื้อใบกระท่อมในขณะนี้คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความต้องการมากถึง 10,000 ตัน โดนเน้นการขายกันทางออนไลน์ หากทำเป็นผงจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 3,000 – 8,000 บาท โดยมีประเทศที่ส่งออกรายใหญ่คือ อินโดนีเซีย ที่มีส่วนแบ่งทางตลาดมากถึง 95%
สำหรับประเทศไทย ขณะนี้มีการปลูกถูกกฎหมาย 135 หมู่บ้านถือว่าปริมาณยังน้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการของตลาด ดังนั้นการที่ผู้คนบอกว่าการกออกกฎหมายให้ขออนุญาตการส่งออก เป็นการกีดกันการค้า ตรงนี้ไม่ใช่ เพราะเรายังปลูกได้ไม่กี่เปอร์เซ็นของความต้องการตลาด ดังนั้นเราก็ต้องมาคิดว่าเราจะแบ่งตลาดกับอินโดนีเซียได้อย่างไรบ้าง ตลาดทางยุโรปหรือที่อื่นมีที่ไหนต้องการ เราจะพัฒนาการปลูกให้เป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างไร” 
      รมว.ยุติธรรม ระบุอีกว่า “ขณะนี้พืชกระท่อมสามารถนำไปทำผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เช่น อาหาาร ยารักษาโรค อาหารเสริม เวชสำอางค์ ซึ่งมีมูลค่ารวมในตลาดมากถึง 1.459 ล้านล้านบาท ดังนั้นการปลูกพืชกระท่อม หากไม่มีการสร้างนวัตกรรม แห่กันปลูกเหมือนพืชอื่นๆจะทำให้ราคาตกต่ำ จากราคากิโลกรัมละ 300 บาทอาจจะเหลือแค่ 20-30 บาทเท่านั้น เราไม่อยากให้กระท่อมออกมารูปแบบนี้ แต่หากเรามีนวัตกรรมใหม่ๆ มีการสร้างงานวิจัย จะเพิ่มมูลค่าของพืชได้ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสร้างงานวิจัยต่างๆออกมาอย่างเร่งด่วน”
ที่มา : เฟสบุ๊ค “สมศักดิ์ เทพสุทิน”
<img class=”j1lvzwm4″ role=”presentation” src=”data:;base64, ” width=”18″ height=”18″ />