เร่งกรมส่งเสริมสหกรณ์หาพื้นที่ปลูกฟ้าทะลายโจร ป้อน สธ. สิงหาฯนี้ได้พันธุ์ดี 2 แสนกล้า ก่อนหนุนปลูกขมิ้น-ขิง

  •  
  •  
  •  
  •  

“มนัญญา” สั่งกรมส่งเสริมสหกรณ์หาพื้นที่ร่วมโครงการส่งเสริมปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้เป็นแหล่งวัตถุดิบ   ป้อนกับกระทรวงสาธารณสุข ผลิตยาสมุนไพร เป้าต้นเดือนสิงหาคมนี้จัดหาต้นกล้าดีที่กรมวิชาการเกษตรสนับสนุน และมีสารแอนโดรกราโฟไลด์สูงได้กว่า 2 แสนกล้า ก่อนขยายส่งเสริมปลูกชมิ้นและขิงต่อไป

      นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์คัดเลือกสหกรณ์เข้าโครงการส่งเสริมปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบผลิตยาสมุนไพร ให้กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้มีความต้องการวัตถุดิบจำนวนมาก แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ จึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะผลักดันให้สหกรณ์เข้ามามีบทบาทดังกล่าว โดยเฉพาะการปลูกฟ้าทะลายโจร ที่เริ่มนำร่องจับคู่กับกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก หากสามารถทำได้ดีผลเป็นที่น่าพอใจ อนาคตจะขยายไปปลูกสมุนไพรสำคัญตัวอื่น ๆ เพื่อลดการนำเข้าคือขมิ้นและขิง ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและสหกรณ์ที่เข้าโครงการ

      สำหรับโครงการปลูกฟ้าทะลายโจร จะต้องเดินหน้าจริงจัง เพราะขณะนี้ไม่พอ ที่สำคัญต้องเป็นชนิดที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์สูง ที่ทางการแพทย์ต้องการซึ่งกรมวิชาการเกษตรมี 2 พันธุ์ คือสายพันธุ์พิจิตร 4-4 และสายพันธุ์พิษณุโลก 5-4 ดังนั้นเพื่อให้มีการขยายพันธุ์และขยายผลผลิตจึงต้องจับระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์กับกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ซึ่งเป็นผู้ใช้ให้เป็นคู่ธุรกิจกัน และอนาคตจะขยายไปยังสมุนไพรตัวอื่น เช่น ขมิ้น ขิง ซึ่งกรมแพทย์แผนไทยจะได้เป็นผู้ชี้ว่า ต้องการสมุนไพรตัวไหน เท่าไหร่ อย่างไร เพื่อที่จะได้คุมคุณภาพการผลิตที่ต้องปลอดสารเคมีนี้เนื่องจากใช้เป็นยา

    “การจับมือกับกระทรวงสาธารณสุขจะทำให้มีความชัดเจนทั้งด้านการผลิตที่มีคุณภาพและตลาดรองรับ ซึ่งดิฉันคิดว่ามูลค่าตลาดสมุนไทยมหาศาลมาก เพราะเทรนด์ของโลกมาแนวรักษาสุขภาพ และกรณีการระบาดของโควิดครั้งนี้จะเห็นว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมีบทบาทที่สำคัญมาก โครงการจะเริ่มประมาณต้นเดือนสิงหาคมนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะได้กล้าพันธุ์ดีที่กรมวิชาการเกษตรสนับสนุนประมาณ 2 แสนกล้า เพื่อเป็นต้นพันธุ์ให้เกษตรกรที่เข้าโครงการ” นางสาวมนัญญา กล่าว

วิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์

      ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างการคัดเลือกสหกรณ์ ที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการปลูกฟ้าทะลายโจรในสถาบันเกษตรกร 4 แห่ง ภูมิภาคละ 1 แห่ง พื้นที่ดำเนินการ 500 ไร่ เมื่อได้สหกรณ์เป้าหมายแล้วจะมีการส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์นั้นปลูก พื้นที่เป้าหมายเบื้องต้น 500 ไร่ ซึ่งต้นฟ้าทะลายโจรทั้งหมดของสมาชิกจะต้องขายให้สหกรณ์ทั้งหมด เพื่อให้สหกรณ์รวบรวมส่งให้กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้มีความต้องการมากเพื่อผลิตเป็นยาสมุนไพร แต่ยังขาดตัววัตถุดิบ

    ทั้งนี้ หลังจากได้สหกรณ์ที่เข้าโครงการแล้วจะมีการชี้แจงแนวทางการปลูกฟ้าทะลายโจรให้ได้คุณภาพเพื่อนำไปผลิตยาสมุนไพร เพราะต้องการสมุนไพรปลอดสารเคมี อย่างไรก็ตามกรณีสหกรณ์ที่เข้าโครงการต้องการทุนดำเนินการ กรมจะจัดเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้ในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1 เพื่อใช้ในการตั้งต้นเข้าโครงการ
ทั้งนี้ กรมคาดว่าโครงการนี้จะเป็นช่องทางสร้างรายได้เสริมให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้ดี เนื่องจากเป็นสมุนไพรคุณภาพ และคาดหวังว่าหากสหกรณ์สามารถผลิตได้คุณภาพ อนาคตหลายสหกรณ์จะเป็น แหล่งผลิตสมุนไพรปลอดสารได้อีกจำนวนมาก และจะสามารถเป็นทั้งแหล่งผลิตและแหล่งท่องเที่ยว ส่งผลต่อรายได้ของสมาชิกสหกรณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม