นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรประสานการทำงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จังหวัดจันทบุรี กรมศุลกากร กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์และกรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อจัดการอย่างเฉียบขาดกับขบวนการนำเข้าทุเรียนเวียดนามมาสวมสิทธิทุเรียนจันทบุรีเพื่อส่งออกไปจีนโดยสำแดงเท็จทั้งการนำเข้าและส่งออก ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยในตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดหลักของทุเรียนไทย
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า หลังจากทราบถึงการจับกุมทุเรียนสวมสิทธิ จึงได้ประชุมทางไกลกับหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผลไม้ใน 14 จังหวัดภาคใต้ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังการนำทุเรียนต่างประเทศมาสวมสิทธิทุเรียนไทย เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูผลไม้ภาคใต้ นอกจากนี้ ตนในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) จะนัดประชุมหารือเป็นการด่วนกับหน่วยงานตรวจสอบและปราบปรามปัญหาทุเรียนสวมสิทธิภายในสัปดาห์นี้เพื่อกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ชุดเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ จ.จันทบุรี นำโดย พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รอง ผบช.ภ.3 รรท.ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย นายวุฒิกร สุขีนัย นอภ.เมือง และ นายชลธี นุ่มหนู ผอ.สวพ.6 (ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6) นำกำลังบุกเข้าจับกุมผู้ประกอบการล้งรับซื้อผลไม้ “ลุงตู้-อ๊อด” ภายใน ซ.สระบาปบน พื้นที่หมู่ 10 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี หลังสืบทราบว่ามีพฤติกรรม นำทุเรียนจากประเทศเวียดนาม มาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทยโดยใช้เอกสารรับรอง GAP และ GMP ปลอมเพื่อส่งออกไปจีน ซึ่งจากการตรวจสอบ ทางผู้ประกอบการได้ สำแดงเอกสาร อ้างว่าได้นำเข้าทุเรียนเวียดนามมาแปรรูป จำนวน 18 ตัน เพราะราคาทุเรียนเวียดนามกิโลกรัมละ 70 บาท แต่เมื่อนำมาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทยส่งออก จะขายได้ถึงกิโลกรัมละ 160 บาท
นอกจากนี้ ข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร ในปี 2563 ไทยมีการส่งออกทุเรียนสดมูลค่า 65,631 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 44% โดยมีจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 (มูลค่า 47,798 ล้านบาท สัดส่วน 73% ของการส่งออก)