กขค.เตือนเจ้าของล้งรับซื้อผลไม้ อย่ากดราคา ห้ามเอาเปรียบเกษตรกร โทษปรับสูง

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                                          สันติชัย สารถวัลย์แพศย์

คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เตือนผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้ หรือเจ้าของล้ง ห้ามมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการกระทำความผิด เอารัดเอาเปรียบ ฮั้ว กดราคาผลผลิตจากเกษตรกรอย่างไม่เป็นธรรม ชี้มีโทษปรับในอัตราที่ค่อนข้างสูง ล่าสุดได้รับการร้องเรียนแล้ว 10 รายเชือดไก่ให้ลิงดูแล้ว 1 ราย อีก 8 รายกำลังดำเนินการ

     นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.)  และโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า ฤดูกาลผลไม้หลากหลายชนิดที่กำลังออกผลผลิตสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลทำให้เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ประสบปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มธุรกิจที่รับซื้อผลไม้ (ล้ง) เนื่องจากการมีอำนาจต่อรองที่น้อยกว่า ทาง กขค. จึงได้เน้นความสำคัญในการเข้าไปกำกับดูแลเกษตรกรผูปลูกผลไม้ให้ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น โดยจะเข้มงวดกวดขันให้ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้  ปฏิบัติตามแนวทางการพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้  ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2563 เป็นต้นมา

      ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวได้กำหนดพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมที่อาจเข้าข่ายความผิดมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ประกอบด้วย 1.การไม่ระบุวันหรือช่วงเวลาในการเข้าเก็บผลไม้ การใช้อำนาจต่อรองที่เหนือกว่ารวมถึงเงื่อนไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมซึ่งส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถขายผลไม้ให้ผู้รับซื้อผลไม้ให้ผู้รับซื้อผลไม้รายอื่นได้

     2.การต่อรองราคารับซื้อผลไม้ลดลงจากที่กำหนดไว้ในสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร  การกำหนดคุณภาพของผลไม้หรือเงื่อนไขอื่นใดที่ไม่เป็นธรรม,3.การชะลอการเข้าเก็บผลไม้การเก็บผลไม้ไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงไว้ในสัญญา หรือเลือกเก็บผลไม้บางส่วน รวมทั้งพฤติกรรมในลักษณะอื่น ๆ ที่เป็นการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ,และ 4.การฮั้วกันเพื่อผูกขาดหรือลดการแข่งขัน เช่น การร่วมกันกำหนดราคาซื้อหรือจำกัดปริมาณของสินค้า หรือร่วมกันกำหนดแบ่งท้องที่ซื้อขาย เป็นต้น

     นายสันติชัย กล่าวอีกว่า ปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ถูกเอาเปรียบทางการค้า มีอยู่เป็นประจำทุกปี ทาง กขค. ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรในเรื่องดังกล่าว พร้อมกำชับให้ สขค. เข้าไปกำกับดูแลให้ความเป็นธรรมภายใต้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า และลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง โดยที่ผ่านมามีเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ภาคตะวันออก ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้  ที่มีพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมจำนวนทั้งหมด 10 เรื่อง

     อย่างก็ตาม จากการตรวจพบว่า มีการกระทำความผิดที่เข้าข่ายการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมตามมาตรา 57 จำนวน 1 ราย และได้ลงโทษปรับทางปกครอง ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดอัตราร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด ส่วนอีก 8 ราย อยู่ระหว่างการดำเนินเรื่องของคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริง คาดว่าจะได้ข้อยุติและนำเสนอให้ กขค. พิจารณาในเร็ววันนี้  และยุติเรื่อง จำนวน 1 ราย เนื่องจากเป็นกรณีข้อพิพากทางแพ่งที่ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายการแข่งขันทางการค้า

สำหรับการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบธุรกิจการรับซื้อผลไม้ ประกอบด้วย 1.การไม่ระบุวันหรือช่วงเวลาในการเข้าเก็บผลไม้ 2. การต่อรองราคารับซื้อผลไม้ลดลงจากที่กำหนดไว้ในสัญญา 3. ปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมจนทำให้เกิดความเสียหาย และ 4. การฮั้วกันกำหนดราคารับซื้อผลไม้

     เนื่องจากมีโทษปรับในอัตราที่ค่อนข้างสูง จึงอยากเตือนให้ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้ (ล้ง) ระมัดระวังพฤติกรรมทางการค้า ที่อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามแนวทางการพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้ และสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้หากได้รับการเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจการรับซื้อผลไม้ (ล้ง) สามารถร้องเรียนโดยตรงได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า หรือช่องทางเว็บไซต์ www.otcc.or.th หมายเลขโทรศัพท์ 02-199-5444  ตลอดจนอีเมล info@otcc.or.th