เกษตรกรเฮ! กรมส่งเสริมสหกรณ์อัดฉีดกว่า 800 ล้านขยายเวลาให้เงินกู้ปลอดดอกเบี้ยให้กลุ่มเกษตรกรจัดหาปัจจัยการผลิตทั่วไทย

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                             วิศิษฐ์  ศรีสุวรรณ์

เกษตรกรมีเฮ! กรมส่งเสริมสหกรณ์อนุมัติเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรกว่า 800 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มเกษตรกร 1,700 แห่งทั่วประเทศกู้ยืมไปจัดหาปัจจัยการผลิต เพื่อช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิก บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนช่วงไวรัสโควิดระบาด พร้อมขยายเวลาชำระหนี้คืนถึงวันที่ 30 เม.ย.2565

        นายวิศิษฐ์  ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 จัดสรรเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้กรมส่งเสริมสหกรณ์นำไปดำเนินโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการผลิตและการตลาด วงเงิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย กำหนดชำระหนี้คืนภายใน 5 ปี (พ.ศ.2559-2564) เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรได้กู้ยืมไปเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและจัดหาปัจจัยการผลิต อาทิ ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ อุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อบริการแก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิก ซึ่งผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าวมีกลุ่มเกษตรกรที่ขอกู้ยืมเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรแล้ว 1,700 กลุ่ม เป็นเงินจำนวนปีละ 700 ล้านบาท และในปี 2563 ได้มีการขยายเวลาชำระหนี้ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-19 จำนวน 300 กลุ่ม เป็นเงิน 159.73 ล้านบาท

        ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า – 19 ยังคงต่อเนื่องถึงปี 2564 นี้ ซึ่งเป็นปีที่สิ้นสุดระยะเวลาในการดำเนินโครงการดังกล่าว ทางคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร จึงได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการผลิตและการตลาดออกไปอีก 1 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายน 2565 และกำหนดวงเงินกู้ยืมในการดำเนินโครงการในช่วงที่มีการขยายเวลาอีกเป็นเงิน 810 ล้านบาท

      โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ในการอนุมัติเงินกู้ยืมและการขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้กับกลุ่มเกษตรกรดังกล่าว  โดยมีคณะกรรมการพิจารณาเงินกู้ฯระดับจังหวัดร่วมกันพิจารณาการขอกู้เงินกู้ยืมและการขอขยายระยะเวลาชำระหนี้คืนของกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งติดตามการใช้เงินกู้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรได้มีเงินทุนหมุนเวียนและพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจจากเงินทุนปลอดดอกเบี้ย พร้อมทั้งดูแลช่วยเหลือสมาชิก โดยจัดสรรให้สมาชิกได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพทำการเกษตร ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยบรรเทาภาระหนี้สินแก่เกษตรกรในช่วงสถานการณ์โรคไวรัสโคโรน่า-19 ระบาดในขณะนี้อีกด้วย