ส.ป.ก.จับมือกรมป่าไม้ หนุนเกษตรกรปลูกไม้เศรษฐกิจ หวังสร้างรายได้-สร้างมรดกให้กับลูกหลาน

  •  
  •  
  •  
  •  

ส.ป.ก. จับมือ กรมป่าไม้ ส่งเสริมเกษตรกรปลูกไม้เศรษฐกิจ ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้และเป็นมรดกให้กับลูกหลานในอนาคต เผยคนที่ร่วมโครงการได้ทั้งขายไม้และขายคาร์บอนเครดิตผ่าน อ.อ.ป. ขณะที่กรมป่าไม้ พร้อมสนับสนุนพันธุ์กล้าไม้คุณภาพดี ทั้ง พะยูง สัก ยางนา ชิงชัน ประดู่ สนใจติดต่อขอรับได้ที่ศูนย์/สถานีเพาะชำพันธุ์กล้าไม้ ของกรมป่าไม้ ทั่วประเทศ

      ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พร้อมด้วยนายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) การส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กับนายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ และนายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล รองอธิบดีกรมป่าไม้ โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดร่วมลงนามเมื่อ วันที่ 11 มีนาคม 2564

     ดร.วิณะโรจน์ กล่าวว่า จากการปลดล็อคมาตรา 7 ของ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่อนุญาตให้สามารถปลูกไม้หวงห้ามในเขตปฏิรูปที่ดินได้ ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินหันมาปลูกไม้เศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้และเป็นมรดกให้กับลูกหลานในอนาคต

     ดังนั้นจึงได้มีการลงนามระหว่าง ส.ป.ก. กับกรมป่าไม้ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการขับเคลื่อนการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยความร่วมมือกับกรมป่าไม้ในครั้งนี้จะเป็นอีกแรงเสริมหนึ่งที่จะมาช่วย ส.ป.ก. ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินผ่านการปลูกป่าชุมชนและปลูกไม้มีค่าเพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และร่วมสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ

      สำหรับแนวทางในอนาคตนั้น ส.ป.ก. จะได้ร่วมมือกับองค์การอุตสากรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ในการจัดหาช่องทางการตลาดเพื่อให้เกษตรกรมีแหล่งจำหน่ายไม้เศรษฐกิจรวมถึงการส่งเสริมการแปรรูปไม้และการผลิตพลังงานจากเศษใบไม้กิ่งไม้ โดยระหว่างการปลูกไม้เศรษฐกิจ เกษตรกรยังสามารถจำหน่ายคาร์บอนเครดิตผ่าน อ.อ.ป. เพื่อเป็นอีกแหล่งรายได้หนึ่งได้ด้วย   ขณะที่กรมป่าไม้พร้อมที่จะสนับสนุนพันธุ์กล้าไม้คุณภาพดี อาทิ พะยูง สัก ยางนา ชิงชัน ประดู่ โดยพี่น้องเกษตรกรสามารถติดต่อขอรับได้ที่ศูนย์/สถานีเพาะชำพันธุ์กล้าไม้ กรมป่าไม้ ทั่วประเทศ

      “ ส.ป.ก. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจในวันนี้จะเป็นนิมิตหมายอันดีในการเริ่มต้นการทำงานร่วมกันอย่างเป็นทางการ อันจะนำไปสู่การเพิ่มพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ พร้อมเพิ่มศักยภาพพื้นที่เกษตรกรรมในเขตปฏิรูปที่ดิน ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินสู่ความผาสุกอย่างยั่งยืนต่อไป” ดร.วิณะโรจน์ กล่าว