เคล็ดลับปลูก “ผักกาดขาวปลี” พืชอายุสั้น ทำเงินไว กำไรทั้งปี

  •  
  •  
  •  
  •  

“เจียไต๋” เผยเคล็ดลับการปลูกผักกาดขาวปลีที่ประสบผลสำเร็จของเกษตรกรรุ่นใหม่ “มิน-กฤตา เกษมวิริยนนท์” ที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาเพียง 40 – 45 วัน สามารถเก็บเกี่ยวได้ผลผลิตต่อไร่ละราว 3 – 3.5 ตัน ส่งจำหน่ายสู่ตลาด และสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว

     บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย  ชู “มิน-กฤตา เกษมวิริยนนท์” เกษตรรุ่นใหม่ที่ประสบผลสำเร็จในการปลูกผักกาดขาวปลีใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ในครั้งนี้มาจาก การคัดเลือกสายพันธุ์ดีคือสายพันธุ์ “ดีน่าร์” ปลูกได้ทุกฤดู จึงเป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากผักกาดขาวปลี หนึ่งในพืชที่ได้รับความนิยม ที่สำคัญสายพันธุ์นี้มีอัตราความงอกสูง ให้ผลิตผลดีมีคุณภาพ ตามที่ตลาดต้องการ

      มิน บอกว่าการปลูกผักกาดขาวปลีมาจากเมล็ดพันธุ์ผักกาดขาวปลีดีน่าร์ มีอัตราความงอกสูงมากเกือบ 100% ปลูกง่าย ต้นแข็งแรง โตไว ห่อหัวดี สีเขียวสวย ทนต่อสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ เกษตรกรต้องคอยสังเกตและควบคุมความชื้นของดินให้ดี เพราะมีผลต่อการงอกของเมล็ดโดยตรง ต้องปั่นน้ำ หรือรดน้ำให้สม่ำเสมอ หากให้น้ำมากไป หน้าดินจะกลบจนเมล็ดไม่งอก หรือหากให้น้ำน้อยเกินไป หน้าดินแห้ง เมล็ดพันธุ์ก็จะไม่งอกเช่นกัน

การเตรียมแปลงและความใส่ใจ คือ พื้นฐานสำคัญของการปลูก

        อย่างไรก็ตาม ก่อนปลูกจะต้องปรับหน้าดิน ถางหญ้ากำจัดวัชพืชให้เรียบร้อย จากนั้นตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียในดินก่อนปลูกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เมื่อปรับหน้าดินแล้วจึงยกร่องขึ้นแปลงปลูกด้วยความสูงประมาณหนึ่งคืบ หรือ 20 เซนติเมตรจากพื้น เพื่อช่วยให้การระบายน้ำในแปลงดีขึ้น เพราะผักกาดขาวปลีนั้นเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำแฉะ ถ้าความชื้นในดินมีมากจนเกินไป การระบายถ่ายเทน้ำไม่ดีพอ จะทำให้สภาพลำต้นของผักกาดขาวปลีอ่อนแอ เชื้อโรคทางดินสามารถเข้าทำลายได้ง่าย สำหรับ “โรคทางดิน” ที่ต้องระวังในผักกาดขาวปลีนั้นคือ “โรคเน่า” ซึ่งพบมากในช่วงฤดูฝน ลักษณะอาการคือผักจะเป็นจุดฉ่ำน้ำ ต่อมาใบจะเริ่มเน่า และลามไปยังรากอย่างรวดเร็วภายในเวลา 2-3 วัน ดังนั้น เกษตรกรต้องหมั่นตรวจแปลงทุกวันว่ามีการระบายน้ำที่ดีหรือไม่” คุณมิน เล่าหลักการเตรียมแปลงให้ฟังอย่างละเอียด การยกร่องแปลงสูงประมาณ 20 เซนติเมตร (ตามแนวเส้นประ) เพื่อให้การระบายน้ำในแปลงดีขึ้น ลดปัญหาโรคเน่านั่นเอง

เทคนิคบำรุงผักกาดขาวปลีให้หัวใหญ่ ใบหนา ต้นอวบ น้ำหนักดี

     ส่วนการบำรุงผลิตผลด้วยการเติมธาตุอาหารให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่พืชต้องการ นับเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้ผักกาดขาวปลีหัวใหญ่ ห่อดี มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของตลาด โดยคุณมินได้แบ่งการบำรุงออกเป็น 3 ช่วง ตามระยะการเติบโตของพืช ดังนี้

    ช่วงที่ 1 : อายุ 10-15 วัน ใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 จำนวน 1 ครั้ง อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก

    ช่วงที่ 2 : อายุ 17-19 วัน ใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0  อีก 1 ครั้ง อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับลำต้น และเพิ่มการเจริญเติบโต

    ช่วงที่ 3 : อายุ 25-30 วัน ใส่ปุ๋ยบำรุง 3 สูตรคือ ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ ผสมกับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 13-13-24 อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ และปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 21-0-0 อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อช่วยให้ผักขยายกาบใบใหญ่ ห่อแน่นและได้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

     ทั้งนี้ หัวใจความสำเร็จในการปลูกผักกาดขาวปลีกว่า 10 ปีของคุณมิน อยู่ที่ความใส่ใจ มีการทดลองและปรับปรุงวิธีการอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการทดลองใช้ปุ๋ยสูตรใหม่ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด คุณมิน กล่าวเสริมว่า “สำหรับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู นั้นตอนแรกก็ยังไม่กล้าใช้ เพราะว่าเป็นปุ๋ยสูตรใหม่เลยยังไม่มั่นใจว่าจะได้ผลดีหรือไม่ แต่พอเห็นแปลงผักกาดขาวปลีของแม่ที่ได้ใช้ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู นั้นเขียวสวย ต้นอวบ ใบแข็งแรงขึ้นอย่างชัดเจน ก็เลยลองเปิดใจใช้ดูบ้าง ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เนื่องจากปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู มีแคลเซียม-โบรอน ช่วยให้ผักใบหนา ต้นอวบ เมื่อ ใบผักกาดขาวปลีสมบูรณ์ ก็ช่วยลดต้นทุนการฉีดฮอร์โมนได้ ไร่ละประมาณ 2,000 บาท ทั้งยังช่วยให้ผลิตผลต่อไร่เพิ่มขึ้นอีกถึง 10% จากปกติที่เคยได้น้ำหนัก 80-90 กิโลกรัม/ร่อง ปัจจุบันได้น้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 100-110 กิโลกรัม/ร่อง”

การกองปุ๋ย” ภูมิปัญญาคนรุ่นเก่า ได้ผลดี ผักโตไว ใบไม่เน่า

  

    มิน บอกอีกว่า เขาใช้วิธีการกองปุ๋ยหรือการนำปุ๋ยมาโรยระหว่างแนวปลูกต้นผักกาดขาวปลี โดยให้กองปุ๋ยอยู่ห่างจากโคนต้นประมาณ 3 – 4 นิ้ว จากนั้นให้น้ำตามด้วยระบบสปริงเกลอร์ ซึ่งวิธีนี้เหมาะสำหรับผักกาดขาวปลี เพราะเม็ดปุ๋ยจะไม่ตกค้างอยู่ที่ใบและไม่สัมผัสกับใบผักโดยตรง ลดความเสี่ยงเรื่องผักเน่า คุณมินแนะเสริมว่า “ปุ๋ยที่จะใช้ควรเป็นปุ๋ยที่สามารถละลายน้ำได้ดี เพื่อให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ทันทีหลังจากที่เราให้น้ำ”

    ด้วยความมุ่งมั่นในการผสมผสานองค์ความรู้เดิมของครอบครัวเข้ากับการทดลองวิธีการใหม่ๆ ขอ มิน นี่เองที่นำไปสู่ความสำเร็จ สามารถเพิ่มผลิตผลต่อไร่ เป็นที่ต้องการของตลาด ถึงขั้นที่มีพ่อค้าแม่ค้ารับซื้อถึงไร่ในราคาเฉลี่ยไร่ละ 25,000 – 30,000 บาท ถือว่าผักกาดขาวปลีนี้ เป็นอีกพืชที่ทำกำไรได้ดี สร้างรายได้และผลกำไรที่มั่นคง

     สนใจข้อมูลและความรู้ด้านการเกษตรอื่นๆ สามารถติดตามได้ทาง Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/ YouTube: www.youtube.com/c/Puitrakratai ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย www.chiataigroup.com/business/fertilizer/puitrakratai และเว็บไซต์ www.chiataigroup.com