ดลมนัส กาเจ
“ทับทิมอินเดียพันธุ์บังวา เป็นพืชที่เหมาะที่สุดสำหรับอากาศในเมืองไทย ทนแล้งได้ดี ออกผลผลิตดก ผลโต รสชาติอร่อย กรอบ เมล็ดนุ่มราวกับไร้เมล็ด ราคาแพงถึง กก.ละ 180 บาท พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 130-150 ต้น มีผลผลิตถึงไร่ละ 5 ตัน”
ในที่สุดได้ตัดสินใจแล้วว่า พื้นที่เหลือกอีกส่วนหนึ่งที่ “สวนแสวงหา” บ้านดอนกระเบื้อง ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ที่นอกเหนือไปจากปลูกมะพร้าวน้ำหอมที่นำมาจากบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ที่กำลังให้ผลผลิตแล้ว จะปลูกทับทิมอินเดียสายพันธุ์ “บังวา”(BANGWA) และฝรั่งไต้หวันไส้แดง “หงเป่าสือ” หลังที่ได้ศึกษาข้อมูลในบางส่วนแล้ว และก็ลงมือปลูกไปบ้างแล้ว ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังมาแรง และผลิตเป็นที่ต้องการของตลาด
ตามข้อมูลระบุว่า ปัจจุบันผลทับทิมที่วางขายในท้องตลาดไม่ว่าจะเป็นย่านเยาวราช กรุงเทพฯและตามห้างสรรพสินค้าที่ขายกันผลละ 60-80 บาทล้วนแต่นำเข้าจากต่างประเทศเกือบ 100 % ที่มาจากอียิปต์ อินเดียว สเปน จีน บางส่วนจากอเมริกา มีมูลค่าในการนำเข้าปีละราว 500 ล้านบาท โดยทับทิมที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในตลาดโลกเป็นทับทิมสเปน และพันธุ์บังวาของอินเดีย ที่มีเมล็ดนิ่มราวกับทับทิมไร้เลม็ดนั่นเอง
ทับทิมพันธุ์บังวาที่ให้ผลผลิตแล้ว ที่สวนประเสริฐสุข จ.กาญจนบุรี
ทับทิมพันธุ์บังวา นับเป็นพืชที่น่าสนใจให้ผลผลิตเร็ว ปีแรกจะให้ผลผลิต 20-30 กก.ต่อต้น ปีต่อๆมา ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตามขนาดของต้น ต้นอายุ 2 ปีขึ้นไป สามารถให้ผลผลิตกว่าต้นละ 40 -80 กก. แต่ควรเลือกผลไว้ ต้น 30 กก. เพื่อผลผลิตที่มีคุณภาพดี ผลใหญ่ สวย ที่สำคัญทับทิมสามารถติดผลได้ตลอดทั้งปี หลังจากที่อายุ 4 ปีไปแล้วจะให้ผลผลิตต้นละ 100 กก.ต่อปี
ที่สำคัญทับทิมอินเดียพันธุ์บังวา เป็นพืชที่เหมาะที่สุดสำหรับอากาศในเมืองไทย ทนแล้งได้ดี ออกผลผลิตดก ผลโต รสชาติอร่อย กรอบ เมล็ดนุ่มราวกับไร้เมล็ด ราคาแพงถึง กก.ละ 180 บาท พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 130-150 ต้น มีผลผลิตถึงไร่ละ 5 ตัน
ฝรั่งไต้หวันไส้แดง “หงเป่าสือ” ที่ปลูกในสวนสุชาดา อ.วังน้ำเขียว
ส่วนฝรั่งไต้หวันไส้แดง “หงเป่าสือ” มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นฝรั่งทั่วไปเกือบทุกอย่าง เป็นไม้ยืนต้น สูงเต็มที่ราว 5 เมตร เวลาออกผล รูปทรงกลมแป้นคล้ายผลของฝรั่งสุ่ยมี่ น้ำหนักผลถ้าสมบูรณ์โตเต็มที่เฉลี่ยระหว่าง 500–800 กรัมต่อผล หรืออย่างน้อย 3 ผลต่อ 1 กิโลกรัม ใจกลางผลเป็นสีแดงมาถึงเปลือก มีเมล็ดน้อยมาก รสชาติหวานกรอบและหอมหากช่างสังเกตกลิ่นออกคล้ายสตรอว์เบอร์รี ไม่แข็ง รับประทานอร่อยมาก คุณสมบัติพอเศษติดผลดกเกือบทั้งปี
การปลูกฝรั่ง “หงเป่าฮือ” เหมือนปลูกฝรั่งทั่วไปมีระยะห่าง 3X3 เมตรพื้นที่ 1 ไร่ปลูกได้ 170 ต้น รดน้ำระบบน้ำหยดทุกวัน 15 นาที ใส่ปุ๋ยคอกสลับเคมีแรกๆสูตร 25-0-0 และสูตรเสมอ 16-16-16 หากต้องการให้ออกผลดอกให้นับใบจากช่วงกิ่งแยกให้ 15 ใบเด็ดยอดทิ้งทันที ฝรั่งจะแตกกิ่งใหม่ และออกดอกด้วย แต่พอออกผลเล็กๆเด็ดทิ้งบ้างเพื่อให้ผลผลิตที่สมบูรณ์นั่กก.ละ 100-120 บาท (ดูในคลิปประกอบ)