ธ.ก.ส.จ่ายเงินประกันรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีบัญชี 2563/64 รอบ 2 ที่เก็บเกี่ยวในช่วง 9-14 พ.ย. 63 กว่า 6 แสนราย วงเงิน 5,684 ล้านบาทแล้ววันนี้ ที่เหลือกระทรวงพาณิชย์ได้นำเสนอครม. พิจารณาอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามเป้าหมายในเร็วๆ นี้
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 อนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 เบื้องต้นจำนวน 18,096.06 ล้านบาท ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการโอนเงินชดเชยส่วนต่างฯให้แก่เกษตรกรในงวดที่ 1 ไปแล้วจำนวน 786,219 ครัวเรือน เป็นเงิน 9,128.48 ล้านบาท
ส่วนการจ่ายเงินในงวดที่ 2 ซึ่งเดิมกำหนดจ่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 แต่เนื่องจากสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกแต่ละชนิดในปีนี้ลดต่ำกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ส่งผลให้เงินชดเชยส่วนต่างฯ ที่ครม. อนุมัติไว้ไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างฯให้แก่เกษตรกรในงวดที่ 2 ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ธ.ก.ส.ได้มีการหารือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งในการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563ได้มีมติให้ ธ.ก.ส.จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างฯ งวดที่ 2 ให้กับเกษตรกรตามวันเก็บเกี่ยวที่เกษตรกรระบุไว้ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับ กรมส่งเสริมการเกษตรคือตั้งแต่วันที่ 9-14 พฤศจิกายน 2563จำนวน 636,118 ราย วงเงิน 5,684 ล้านบาท ตามงบประมาณที่เหลือในวันที่25 พฤศจิกายน 2563
สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวในวันที่ 15 พฤศจิกายน2563 จำนวน 602,485 ราย วงเงิน 5,641 ล้านบาท และเกษตรกรที่มีสิทธิ์รับเงินชดเชยส่วนต่างในงวดที่ 3ซึ่งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 ได้ประกาศราคากลาง ณ 23 พฤศจิกายน 2563 และกำหนดชดเชยส่วนต่างราคาประกันไปแล้วคือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 3,059 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 2,281 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1,036 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,055 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 996 บาท อีกจำนวน1,497,508 ราย วงเงิน 12,900 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ได้นำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) แล้ว ซึ่งเมื่อ ครม. ให้ความเห็นชอบ ธ.ก.ส.จะเร่งโอนเงินให้แก่เกษตรกรโดยเร็วต่อไป
นายกษาปณ์ กล่าวอีกว่า ธ.ก.สมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับการดำเนินโครงการประกันรายได้พืชเศรษฐกิจสำคัญตามนโยบายรัฐบาลทั้ง 5 ชนิดมิได้ขาดสภาพคล่องตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด