“มนัญญา” ประกาศเดินหน้าเกษตรอินทรีย์ควบคู่ระบบสหกรณ์ หวังให้เกษตรกร ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี

  •  
  •  
  •  
  •  


“มนัญญา” ประกาศเดินหน้าเกษตรอินทรีย์ควบคู่ระบบสหกรณ์ หวังยกระดับสินค้าเกษตรปลอดภัยสู่ผู้บริโภคโดยตรงผ่านซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ เน้นให้เกษตรกร ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี ในการกำจัดวัชพืชหรือศัตรูพืช

     วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563  นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรตะกั่วป่า จำกัด พร้อมมอบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานการผลิตพืชอินทรีย์ และปัจจัยการผลิตแก่สมาชิกสหกรณ์ จำนวน 400 คน ณ สหกรณ์การเกษตรตะกั่วป่า จำกัด ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

    นาวสาวมนัญญา กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการทำอาชีพการเกษตร จึงได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยการส่งเสริมให้เกษตรกร ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี ในการกำจัดวัชพืชหรือศัตรูพืช ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรในรูปแบบการทำเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) เพื่อให้สินค้าเกษตรมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีการยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ให้เป็นองค์กรในระดับชุมชน ในการรวบรวม จัดเก็บ แปรรูป ผลผลิตทางการเกษตรในระดับพื้นที่ รวมทั้งการจัดหาตลาดโดยการจัดทำโครงการซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ เพื่อให้เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าของสมาชิกที่มีคุณภาพ และการเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาดระหว่างขบวนการสหกรณ์ ภาคเอกชน

     ทั้งนี้เพื่อกระจายผลผลิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัยไปสู่ผู้บริโภค ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวมอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังได้ริเริ่มโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เพื่อให้ลูกหลานเกษตรกร ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ใช้ความรู้ประสบการณ์จากภาคอุตสาหกรรมและบริการ รวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ มาพัฒนาการเกษตรของครอบครัวเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพการเกษตรให้เกิดความยั่งยืนต่อไป”

    สำหรับสหกรณ์การเกษตรตะกั่วป่า จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นสหกรณ์ประเภทสหกรณ์การเกษตร เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2521 ดำเนินงานมาแล้ว 42 ปี ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 913 คน มีทุนเรือนหุ้น 13 ล้านบาท มีเงินรับฝาก 39 ล้านบาท มีทุนดำเนินงาน 74 ล้านบาท มีคณะกรรมการบริหารงาน 13 คน เจ้าหน้าที่ 7 คน ดำเนินธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ได้แก่ ปุ๋ย แม่ปุ๋ย วัสดุอุปกรณ์การเกษตร เคมีการเกษตร ข้าวสาร ธุรกิจรวบรวมผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ยางก้อนถ้วย,มังคุด ธุรกิจแปรรูปผลิตผลการเกษตรและการผลิตสินค้า ได้แก่ ปุ๋ยผสม

   ” สหกรณ์ได้เข้าร่วมโครงการสำคัญตามโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจร้านค้าสหกรณ์ในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรของสหกรณ์ที่มีคุณภาพเป็นช่องทางให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าสหกรณ์ได้มากขึ้น และผลักดันให้สหกรณ์ เป็นศูนย์รวบรวมและจำหน่ายผลผลิตที่มีคุณภาพแก่ประชาชนในราคาที่เป็นธรรม โครงการสนับสนุนการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อบริการแก่สมาชิก โครงการส่งเสริมปุ๋ยผสมใช้เองผ่านสถาบันการเกษตรเพื่อลดต้นทุน การผลิตให้แก่เกษตรกร โครงการพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรเป็นองค์กรหลักระดับอำเภอ เพื่อเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ มีสมาชิกได้รับชดเชยดอกเบี้ย 61 ราย เป็นเงิน 231,854.83 บาท และโครงการส่งเสริมการผลิตสินค้าคุณภาพสู่มาตรฐาน (GAP)” รมช.เกษตรฯ กล่าว