ก.เกษตรฯ เตรียม(ร่าง)แผนการเพาะปลูก ปี 63/64 – ดัน 7 โครงการสร้างรายได้ให้เกษตรช่วงแล้ง

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯ เตรียม(ร่าง)แผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2563/64 พร้อมผลักดัน 7โครงการเสริมสร้างรายได้และลดรายจ่ายให้แก่เกษตรกรในช่วงฤดูแล้ง

    นายสำราญ สาราบรรณ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า คณะทำงานวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ได้พิจารณาวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ศักยภาพน้ำ ความเหมาะสมของพื้นที่ พันธุ์ข้าว แนวโน้มการตลาด และโครงการต่างๆของรัฐบาล ที่จะดำเนินการในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งได้มี (ร่าง) แผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2563/64 โดยในเบื้องต้น ได้ขอให้กรมส่งเสริมการเกษตรทบทวนพื้นที่เพาะปลูกพืชไร่อีกครั้ง

     นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายประภัตร โพธสุธน) ได้มีการหารือร่วมกับส่วนราชการเพื่อจัดเตรียมโครงการเสริมสร้างรายได้และลดรายจ่ายให้แก่เกษตรกรในช่วงฤดูแล้ง ปี 2563/64 เพื่อขอจัดสรรงบกลางในการสำรองจ่ายฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเขียว) 2) โครงการพัฒนาเสริมทางเลือกอาชีพประมงในบ่อดิน (ปลาดุก, ปลาตะเพียนขาว) 3) โครงการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามและปลากินพืชในแหล่งน้ำชุมชน 4) โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีก 5) โครงการส่งเสริมปลูกพืชอาหารสัตว์ 6) โครงการสร้างรายได้และพัฒนาอาชีพการเกษตรให้แก่สมาชิกสถาบันเกษตรกร และ 7) โครงการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ทั้งนี้จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

     สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ จัดเตรียมรถแบคโฮล รถบรรทุก กระสอบทราย และเครื่องฉีดน้ำปูน (Grout) นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ได้จัดเตรียมเสบียงอาหารสัตว์ ถุงยังชีพสำหรับสัตว์ คอกสัตว์สำหรับตั้งจุดอพยพสัตว์ และทีมสัตวแพทย์เคลื่อนที่ ได้ดำเนินการอพยพสัตว์แล้ว 4,062 ตัว และแจกจ่ายเสบียงอาหารสัตว์พระราชทาน 39.2 ตัน รวมถึงได้สนับสนุนเรือตรวจประมงน้ำจืดพร้อมเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างไรก็ตาม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนและประเมินความเสียหายหลังน้ำลดต่อไป