“เฉลิมชัย” ลั่นกลางงาน “35 ปีกรมส่งเสริมการเกษตร” ปี 64 เดินหน้าขับเคลื่อน “3 S” ดันไทยครัวของโลก

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตร ถือฤกษ์งาม ยามดี “35 ปีกรมส่งเสริมการเกษตร” ปล่อยขบวนคาราวาน รถส่งเมล็ดพันธุ์จากโครงการ “ตู้เย็นข้างบ้านต้านภัย Covid-19” มุ่งสู่สำนักงานเกษตรจังหวัดทั้ง 76 แห่ง เพื่อส่งถึงมือประชาชนและเกษตรกรที่ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ทั่วประเทศ “เฉลิมชัย” ประกาศปี 2564 ขับเคลื่อนนโยบายด้านการเกษตรและอาหาร ที่สนับสนุนและมุ่งเป้าให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก ภายใต้กรอบการทำงานที่เน้นตามแนวคิด  3 S  “Safety-Security-Sustainability”

       วันที่ 21 ตุลาคม 2563 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตรครบรอบปีที่ 53 และถือโอกาสเป็นประธานปล่อยขบวนรถส่งเมล็ดพันธุ์จากโครงการตู้เย็นข้างบ้านต้านภัย Covid-19 ไปให้สำนักงานเกษตรจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพื่อกระจายไปให้แต่ละอำเภอให้ถึงมือประชาชนและเกษตรกรที่ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ต่อไป 

      ในโอกาสนายเฉลิม ชัย ได้มอบประกาศเกียรติคุณแก่บุคคลและหน่วยงานดีเด่นประจำปี 2563 จำนวน 28 รางวัลจำนวน 6 ประเภทได้แก่ 1) ประเภทเกษตรตำบลดีเด่น 2) ประเภทเกษตรอำเภอดีเด่น 3) ประเภทนักส่งเสริมการเกษตรระดับจังหวัดดีเด่น 4) ประเภทเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานสนับสนุนดีเด่น 5) ประเภทนักส่งเสริมการเกษตรส่วนกลางดีเด่นและ 6) ประเภทหน่วยงานดีเด่นพร้อมมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ทำคุณประโยชน์บริจาคที่ดินเพื่อสร้างสำนักงานเกษตรอำเภอบ่อพลอยจังหวัดกาญจนบุรีจำนวน 2 ท่าน ณ กรมส่งเสริมการเกษตรว่า

     นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ในปี 2564 กระทรวงเกษตรฯมีนโยบายด้านการเกษตรและอาหารที่สนับสนุนและมุ่งเป้าให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก เน้นกรอบการทำงานในการขับเคลื่อนร่วมกันหรือที่เรียกว่า “3 S” คือความปลอดภัยของอาหาร (Safety) ความมั่นคงของภาคการเกษตรและอาหาร (Security) และความยั่งยืนของภาคการเกษตร (Sustainability) ตลอดจนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติร่วมกับภาครัฐภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม

      นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมนโยบายตลาดนำการผลิตโดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆที่จะเข้ามาเพิ่มช่องทางในการตลาดให้กับผู้ผลิตสินค้าเกษตรดังนั้นการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรจึงเป็นภารกิจสำคัญที่จะต้องช่วยเหลือดูแลเกษตรกรและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และการปรับวิธีการทำงานสู่ความเป็น New Normal ยึดหลักตลาดนำการผลิตใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่งเสริมการใช้และบริหารจัดการปัจจัยการผลิต

      เพื่อยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ใช้กลไกและเครือข่ายการทำงานส่งเสริมการเกษตรเชื่อมโยงทุกระดับสร้างต้นแบบการส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่และการถ่ายทอดความรู้ รวมถึงการช่วยเหลือดูแลและให้บริการแก่เกษตรกรสร้างและขยายผลเกษตรกรรุ่นใหม่ให้พร้อมเพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้ประกอบการและขยายความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆในการพัฒนาการเกษตร

35 ปีกรมส่งเสริมการเกษตร ก้าวสู่เกษตรวิถีใหม่

      ด้านนายเข้มแข็งยุติธรรมดำรงอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2564 กรมส่งเสริมการเกษตรต้องขับเคลื่อนได้แก่ การสืบสานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริตามที่ได้พระราชทานแนวทางการดำเนินการเน้นขยายผลและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดย การจัดทำแผนปฎิบัติงานในแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจนเพื่อให้เกษตรกรกลุ่มเป้าหมายมีอาชีพที่สอดคล้องกับพื้นที่และมีรายได้ที่มั่นคงการสานต่อภารกิจตลาดนำการผลิตโดยขับเคลื่อนผ่านกลไกการเกษตรแปลงใหญ่ให้ครอบคลุมสินค้าและกลุ่มเกษตรกรที่มีคุณภาพการปรับระบบการผลิตสินค้าเกษตรตามแผนที่เกษตร Agri – map ในพืชเศรษฐกิจ อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง สัปปะรด ปาล์มน้ำมันและมะพร้าวเป็นต้น

     พร้อมให้สนับสนุนให้เกษตรกรใช้พืชพันธุ์ดีและมีแหล่งผลิตพืชพันธุ์ดีในชุมชนรวม ทั้งสร้างการยอมรับและความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าเกษตรจากการส่งเสริมการเกษตรมีระบบการตรวจสอบย้อนกลับพัฒนาระบบบริหารจัดการสินค้าและการขนส่งทั้งตลาดค้าส่งธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่และตลาดออนไลน์รวมถึงส่งเสริมการแปรรูปสินค้าพัฒนาบรรจุภัณฑ์และการสร้างตราสินค้า และส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

     ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายสินค้าเกษตรการยกระดับเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรโดยมุ่งพัฒนาศักยภาพเกษตรกร Young Smart Farmer Smart Farmer และวิสาหกิจชุมชน รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันการศึกษาหน่วยงานวิชาการการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมการเกษตรให้เกิดการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่สร้างการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมและการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรต้องทำงานคู่กับพี่น้องเกษตรกรทั้งการให้บริการทางการเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกรในทุกมิติ