แนะ 7 พืช ทางรอดสู้ภัยแล้ง“กับศรแดงพืชน้ำน้อยใช้น้ำน้อย” เก็บเกี่ยวไว สร้างรายได้เร็ว

  •  
  •  
  •  
  •  

พิชญา พงศาวกุล

“อีสท์ เวสท์ ซีด” เนรมิต “ศรแดงพืชน้ำน้อย ทางเลือกใหม่ในช่วงภัยแล้ง”ทั่วทุกภูมิภาค แนะเกษตรกรปลูก 7 ชนิดใช้น้ำน้อย “ข้าวโพดข้าวเหนียว พันธุ์สวีทไวโอเล็ท ข้าวโพดหวาน พันธุ์จัมโบ้สวีท – ฟักทอง พันธุ์ข้าวตอก 573 และประกายเพชร- ถั่วฝักยาว พันธุ์ลำน้ำชี และลำน้ำพอง-แฟง พันธุ์สะพายเพชร – แตงกวา พันธุ์ธันเดอร์กรีน- ผักใบ ผักบุ้ง พันธุ์ยอดไผ่ 9 – พริกขี้หนู พันธุ์เพชรมงกุฏ” ระบุประหยัดน้ำ เก็บเกี่ยวไว รายได้เร็ว พร้อมเปิดตัวพืชอีก 3 สายพันธุ์ที่ทนแล้งสุดๆ “ข้าวโพดข้าวเหนียว พันธุ์สวีทไวโอเล็ทข- ข้าวโพดหวาน พันธุ์จัมโบ้สวีท-พริกขี้หนู พันธุ์เพชรมงกุฎ” เผยเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาให้มีความทนแล้งโดยเฉพาะ

      นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ตราศรแดง ผู้นำอันดับ 1 ด้านเมล็ดพันธุ์ผัก กล่าวว่า  วิกฤตภัยแล้ง หรือที่เราเรียกว่า เอลณีโญ โดยปกติจะเกิดขึ้นทุก ๆ 5 ปี ถ้าาจำกันได้ปี 2559 จะเป็นปีที่แล้งหนักมาก และในปี 2563 นี้วิกฤตภัยแล้งก็จะเวียนมาครบอีกรอบ โดยในปีนี้ค่อนข้างที่จะรุนแรงมาก สาเหตุมาจากปริมาณฝนที่ตกปี 2562 น้อยกว่าปกติ ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมน้อย คาดกันว่า ในปี 2563 ฝนตกล่าช้ากว่าปกติ 1 – 2 เดือน คือ จะเริ่มช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม  2563 จากปกติแต่ละปีฝนจะเริ่มตกกลาง พฤษภาคม- ตุลาคม ปี 2563 และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซฃเซียส หรือราวๆ 40 กว่าองศา ฯ ทำให้แหล่งน้ำต่าง ๆ เหือดแห้งไปหมด

                                                                         วิชัย เหล่าเจริญพรกุล  

    อย่างไรก็ทางบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด ได้ตระหนักเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้งนี้ เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศเป็นชาวนา รองลงมาคือปลูกพืชไร่ ไม่ว่าจะเป็นอ้อย มันสำปะหลัง ซึ่งกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะว่าเป็นพืชที่ใช้น้ำมาก ปริมาณ 1,100 ลบ.ม.ต่อไร่ต่อรอบการปลูก ใช้ระยะเวลาการปลูก 100-120 วัน  จึงเป็นที่มาของโครงการ “ศรแดงพืชน้ำน้อย ทางเลือกใหม่ในช่วงภัยแล้ง” โดยทางบริษัทฯได้ริเริ่มทำโครงการ “ศรแดงพืชน้ำน้อย ทางเลือกใหม่ในช่วงภัยแล้ง” ขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรที่ไม่สามารถปลูกข้าวหรือพืชไร่ได้ ให้หันมาปลูกพืชผักที่ใช้น้ำน้อย อายุสั้น โดยเรามีข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างข้าวกับพืชน้ำน้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปริมาณน้ำที่ใช้ อายุเก็บเกี่ยวที่สั้นกว่า ยกตัวอย่างเช่น ปลูกข้าว 1 ไร่ใช้ปริมาณน้ำถึง 1,100 ลบ.ม. แต่ถ้าปลูกพืชน้ำน้อย เช่น แตงกวา ข้าวโพด จะใช้ปริมาณน้ำแค่ 300 – 600 ลบ.ม. และข้าวต้องใช้เวลาถึง 3-4 เดือนถึงเก็บเกี่ยวได้ แต่พืชน้ำน้อยใช้ระยะเวลา 1-2 เดือนเท่านั้น
แนะ 7 พืชใช้น้ำน้อยจากศรแดง

                                                        อิสระ วงศ์อินทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด

     พืชน้ำน้อยที่เราแนะนำมีทั้งหมด 7 ชนิดด้วยกันได้แก่ 1. ข้าวโพดข้าวเหนียว พันธุ์สวีทไวโอเล็ท ข้าวโพดหวาน พันธุ์จัมโบ้สวีท อัตราการใช้น้ำ 438 (ลบ.ม./ไร่)  ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 70 (วัน)  สร้างรายได้ 16,000-17,000 (บาท), 2.ฟักทอง พันธุ์ข้าวตอก 573 และประกายเพชรอัตราการใช้น้ำ 616 (ลบ.ม./ไร่) ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 75-90 (วัน)สร้างรายได้ 24,000 (ลบ.ม./ไร่), 3. ถั่วฝักยาว พันธุ์ลำน้ำชี และลำน้ำพอง อัตราการใช้น้ำ 458 (ลบ.ม./ไร่) ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 55-60 (วัน) สร้างรายได้ 60,000 (บาท)}4.แฟง พันธุ์สะพายเพชร อัตราการใช้น้ำ 551 (ลบ.ม./ไร่) ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 60-65 (วัน) สร้างรายได้ 40,000 (บาท),5. แตงกวา พันธุ์ธันเดอร์กรีน อัตราการใช้น้ำ 660 (ลบ.ม./ไร่) ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 30-32 (วัน) สร้างรายได้ 39,000 (บาท) ,6,ผักใบ ผักบุ้ง พันธุ์ยอดไผ่ 9 อัตราการใช้น้ำ 300 (ลบ.ม/ไร่) ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 21 (วัน) สร้างรายได้ 43,200 (บาท),และ 7. พริกขี้หนู พันธุ์เพชรมงกุฏ อัตราการใช้น้ำ 758 (ลบ.ม./ไร่) ระยะเวลาเก็บเกี่ยว 150 (วัน) สร้างรายได้ 105,000 (บาท)

       นายวิชัย กล่าวอีกว่า “ ศรแดงพืชน้ำน้อย ทางเลือกใหม่ในช่วงภัยแล้ง” โครงการที่ 1 เริ่มเมื่อปี 2559 ใช้ชื่อโครงการว่า “ ศรแดงพืชน้ำน้อย จากร้อยสู่ล้าน “ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีมากจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมทั้งเกษตรกรผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง เดิมที่เกษตรกรไม่มีความรู้เกี่ยวกับการปลูกผัก ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ทางศรแดงก็นำเสนอทางเลือกให้กับเกษตรกรโดยมอบองค์ความรู้การปลูกพืชผักที่ใช้น้ำน้อย ผ่านชุดกล่องเมล็ดพันธุ์ และมีเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ให้ความรู้กับกลุ่มเกษตรกรต่าง ๆ ทั่วประเทศ

     ส่วนปีนี้ปี 2563 นี้เป็นโครงการที่ 2 ทางบริษัท ฯ มองเห็นว่า จะให้คำแนะนำเรื่องเมล็ดพันธุ์และการปลูกพืชอย่างเดียวคงไม่พอ สิ่งที่สำคัญสำหรับพืชน้ำน้อยคือเรื่องการเทคโนโลยีการใช้น้ำ วิธีการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น ระบบน้ำหยด สปริงเกอร์ เราใส่องค์ความรู้นี้เพิ่มเติมเข้าไปให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อให้เกษตรกรปลูกพืชน้ำน้อยให้ผลผลิตมีคุณภาพมากที่สุด

ศรแดงเฟ้นหาสุดยอดเกษตรกรพืชน้ำน้อย

       สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทางเกษตรกรนำองค์ความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับพืชน้ำน้อยที่เรามอบให้ไปใช้จริง ๆ เราจึงมีการจัดการประกวดนี้ขึ้นมาโดยเราจะจัดขึ้นภาคละ 1 จุด คือภาคเหนือ : ที่จังหวัดเชียงราย อำเภอพญาเม็งราย,ภาคอีสาน : ที่จังหวัดนครราชสีมา,ภาคใต้ตอนบน : ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์,และภาคกลาง ที่จังหวัดนครสวรรค์ ที่มาจัดงานแถลงข่าวในครั้งนี้

     ในโครงการนี้มีการประกวดด้วย หลักเกณฑ์ในการประกวดต้องเป็นเกษตรกรที่ทำนา หรือปลูกพืชไร่อยู่เจ้าหน้าที่ภาคสนามจะทำการคัดเลือกเกษตรกรขึ้นมาจำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่ภาคสนามให้ความรู้การปลูกพืชน้ำน้อยคือ ระบบน้ำหยด การคลุมแปลง การปลูกพืชน้ำน้อย ผ่านแปลงตัวอย่าง เกษตรกรต้องนำความรู้ที่ได้รับไปใช้กับแปลงของตนเอง โดยต้องใช้ 1.ระบบน้ำหยด 2.การคลุมแปลง 3.การปลูกพืชน้ำน้อยไปใช้ โดยมีเจ้าหน้าที่ภาคสนามเป็นพี่เลี้ยง โดยค่าใช้จ่ายด้านระบบน้ำหยด การคลุมแปลง เมล็ดพันธุ์ บริษัทฯ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้

เกณฑ์การพิจารณาการประกวด

      การพิจารณาดูว่าเกษตรกรได้นำสิ่งที่ให้ไป ไปใช้ประโยชน์เต็มที่หรือไม่ปริมาณผลผลิตที่ได้ ความสวยงามตรงความต้องการของตลาดหรือไม่ของรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศ รางวัลที่ 1 ของรางวัลมูลค่ารวม 18,500 บาท,รางวัลที่ 2 ของรางวัลมูลค่ารวม 12,000 บาท,และรางวัลที่ 3 ของรางวัลมูลค่ารวม 6,500 บาท ทั้ง 3 รางวัลนี้จะมีชุดระบบน้ำหยด เมล็ดพันธุ์ผัก ให้เกษตรกรสามารถนำไปต่อยอดการทำเกษตรต่อไปได้ โดยทาางบริษัทกำหนดระเวลาการประกวดตั้งแต่วันที่ 1-28 กุมภาพันธ์  2563 คัดเลือกเกษตรกรเพื่อเข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 1-31 มีนาคม 2563 เกษตรกรปลูกพืชน้ำน้อยตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ระหว่างวันที่1-30 เมษายน 2563 เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิต ในวันที่ 8 พฤษภาคม . 2563 คณะกรรมการตัดสินในวันที่15 พฤษภาคม 2563 ประกาศผลผ่านทางเพจเฟสบุค : เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง

ศรแดงโชว์ 3 สายพันธุ์ทนแล้ง

     “อีสท์ เวสท์ ซีดเราเป็นบริษัทเมล็ดพันธุ์อันดับ 1 สายพันธุ์ที่เราพัฒนามาต้องตอบโจทย์ปัญหาของเกษตรกรได้ และปัญหาภัยแล้งก็เป็นปัญหาหนึ่งที่เรานำมาพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความทนแล้ง 3 สายพันธุ์ที่แนะนำมีดังต่อไปนี้ครับ คือข้าวโพดข้าวเหนียว พันธุ์สวีทไวโอเล็ท และ ข้าวโพดหวาน พันธุ์จัมโบ้สวีท เคลือบเมล็ดด้วยสารเพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้มีรากฝอยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นหาอาหาร หาน้ำได้ดีกว่าพันธุ์การค้าอื่น ๆ
พริกขี้หนู พันธุ์เพชรมงกุฎ เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาให้มีความทนแล้งโดยเฉพาะ ผลผลิตได้คุณภาพดีแม้อยู่ในสภาพอากาศแล้ง” นายวิชัย กล่าว

ปลูกแล้วขายที่ไหน ศรแดงเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา

       ด้านตลาดของผลผลิตสำหรับพืชน้ำน้อย ทางบริษัท ฯ ยินดีให้คำปรึกษา เพราะบริษัทมีเครือข่ายกับทางพ่อค้า และแม่ค้าที่ขายผลผลิต เราจะเป็นคนประสานงานให้กลุ่มในเฟสบุค ทางเกษตรกรสามารถนำผลผลิตตัวเองไปโพสขายได้ โดยตรง มี 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มปลูกแตง มะระ บวบ ศรแดง กลุ่มปลูกข้าวโพดศรแดง กลุ่มปลูกพริกศรแดง ซึ่งในกลุ่มเหล่านี้จะเป็นที่รวมตัวกันของพ่อค้า แม่ค้า ผู้รับซื้อผลผลิต และเพจเหล่านี้เมื่อมีปัญหาในเรื่องการปลูก สมาชิกกลุ่มก็ให้คำปรึกษาได้ด้วย

     “ตอนนี้ทางบริษัท ฯ มีพนักงานภาคสนามอยู่ทั่วประเทศ ที่พร้อมให้ความรู้ คำแนะนำ พร้อมทั้งแนะนำตลาดสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ได้ หน่วยงานภาครัฐ หรือเกษตรกรสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด โทร. 02-831-7777 , เฟสบุคเพจ เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง, Line: @sorndaengseed หรือที่ www.eastwestseed.com” ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด กล่าว

      หมายเหตุ:จังหวัดที่มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ได้แก่จังหวัดเชียงราย น่าน นครพนม มหาสารคาม บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบูรณ์ อุทัยธานี นครราชสีมา อุตรดิตถ์ ชัยนาท นครสวรรค์ สุโขทัย สุพรรณบุรี พะเยา และสกลนคร รวมทั้งสิ้น 116 อำเภอ 621 ตำบล 2 เทศบาล 5,297 หมู่บ้าน/ชุมชน (ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์2563)
(red arrow right)(mistletoe)(red arrow left)