นักวิจัย สวพส. ค้นพบใช้“เห็ดป่า” นำทางลดปัญหา “ฝุ่น-ควัน -ไฟป่า” ได้

  •  
  •  
  •  
  •  

     หากย้อนไปดูวัตถุประสงค์ในการตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)หรือ สวพส. จัดตั้งขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะสนับสนุนงานโครงการหลวงและขยายผลงานโครงการหลวงในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมบนที่สูงของประเทศไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน ทว่าขณะนี้เกิดปัญหาฝุ่นควันและไฟป่ายังเป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน นักวิจัยของ สวพส. จึงได้ทำการค้นคว้าวิจัย จนพบว่า ปัจจัยสำคัญที่จะสามารถหาแนวทางร่วมกับชุมชนไว้ 3 แนวทาง โดยใช้ “เห็ดป่า” เป็นตัวชูโรงที่เป็นพระเอก ที่สามาถเป็นแนวทางในการที่จะนำไปปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาต่อไปได้

                                                                        ศุลิเชษฐ์ ทองกล่

      สำหรับนักวิจัยชุดนี้ประกอบด้วย ว่าที่เรือตรี ศุลิเชษฐ์ ทองกล่ำ เจ้าหน้าที่ โครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพื้นฟูและส่งเสริมการใช้ประโยชน์เห็ดท้องถิ่นบนพื้นที่สูง และ ดร.จารุณี ภิลุมวงค์ นักวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ได้ทำการค้นคว้าวิจัยและเรียบเรียงเกี่ยวกับแนวทางการใช้เห็ดป่า แก้ปัญหาฝุ่นควันไฟป่า ไว้ว่าจากปัญหาฝุ่นควันไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย มักจะถูกสังคมมองว่า เกิดจากการเก็บหาของป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็ดเผาะหรือเห็ดถอบมักจะตกเป็นจำเลยของสังคม

                                                                          ดร.จารุณี ภิลุมวงค์

       เนื่องจากเป็นเห็ดที่มีความต้องการบริโภคของคนทั่วไปค่อนข้างสูงและมีราคาดีอีกทั้งยังมีเรื่องของความเชื่อที่สืบต่อกันมาว่า ต้องเกิดไฟไหม้ก่อนเห็ดถึงจะออก ซึ่งในความเป็นจริงการหาเห็ดเผาะหรือเห็ดถอบแต่เดิมนั้น คนเฒ่าคนแก่ในสมัยก่อน ใช้การสังเกตลักษณะของพื้นที่ที่พบเห็ด โดยพบว่าหลังจากที่มีไฟไหม้ป่าแล้วนั้นจะพบเห็ดเผาะในพื้นที่จำนวนมาก

    จากจุดนี้ทำให้มีการบอกต่อกันมาและเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน กลายเป็นต้องเผาป่าก่อนเห็ดเผาะหรือเห็ดถอบถึงจะออกให้ซึ่งในความเป็นจริงเห็ดเป็นสิ่งมีชีวิตที่เจริญเป็นเส้นใย หากโดนความร้อนทำลายก็สามารถที่จะตายได้

        นักวิจัยชุดนี้ ระบุว่า เห็ดเผาะหรือเห็ดถอบจะเจริญอยู่ร่วมกันกับรากพืชและบริเวณรอบ ๆ ราก ทำให้ได้รับผลกระทบจากการทำลายของไฟป่าบ้างบางส่วน แต่เห็ดชนิดอื่น ๆ ที่เกิดอยู่ในป่าซึ่งเป็นผู้ย่อยสลายอินทรียวัตถุให้เกิดการหมุนเวียนของธาตุอาหารในดินจะมีการเจริญอยู่บนเศษวัสดุใบไม้ กิ่งไม้ เมื่อเกิดไฟไหม้เป็นระยะเวลานานเห็ดกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากถูกความร้อนเข้าทำลายเส้นใยและดอกเห็ดทำให้ไม่สามารถเจริญและแพร่ขยายพันธุ์ต่อไปได้ สังเกตได้จากพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้เห็ดกลุ่มที่เจริญเหนือดินจะมีปริมาณลดลง

                                                                        เห็ดป่า

       ดังนี้หากจะแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน ก็ต้องทำให้เกิดการเผาหรือไฟไหม้ที่ลดลง ซึ่งจะทำอย่างไรได้บ้างนั้น มีทางออกจะขอนำเสนอไว้ 3แนวทาง เพื่อให้นำไปใช้ตามความเหมาะสมของพื้นที่และบริบทของชุมชน ดังนี้

       1.การใช้เห็ดกลุ่มไมคอร์ไรซ่า เช่น เห็ดเผาะ เห็ดไข่ เห็ดแดง และเห็ดหล่ม เป็นแรงจูงใจในการดูแลป่าโดยไม่ให้เกิดการเผาหรือไฟไหม้ ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้หัวเชื้ออย่างง่ายจากดอกเห็ดแก่ การทำหัวเชื้อน้ำหมักเห็ด ก้อนดินผสมน้ำหมักเห็ด แล้วนำไปเติมในพื้นที่ หรือต้นไม้ที่เติมหัวเชื้อเห็ดสำหรับนำไปปลูกเสริมในพื้นที่

     2.dารนำเศษวัสดุใบไม้ในป่ามาทำเป็นวัสดุในการเพาะเห็ดโคนร่วมกับการทำแนวกันไฟเพื่อลดปริมาณเชื้อเพลงและความรุนแรงของการเกิดไฟปลง

     3.การใช้จุลินทรีย์และเห็ดป่า เพื่อช่วยในการย่อยสลายเศษวัสดุใบไม้ กิ่งไม้ ที่จะกลายเป็นวัสดุเชื้อเพลิงในป่า ซึ่งสามารถทำได้โดยการนำดินและดอกเห็ดจากป่ามาทำเป็นหัวเชื้อในลักษณะน้ำหมักหรือก้อนดินผสมน้ำหมักเห็ด แล้วนำกลับไปเติมในป่าคล้ายกับวิธีการใส่เชื้อเห็ดโคน

       ทั้งนี้หากใช้วิธีการทางชีวภาพในการจัดการปัญหาฝุ่นควันไฟป่าที่ต้นตอของปัญหาจะเป็นการช่วยให้ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ยังคงอยู่ รวมทั้งสร้างความสมดุลในระบบนิเวศให้กลับฟื้นคืนมานอกจากนี้ยังทำให้มีแหล่งอาหารจากป่าที่อุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และจะเป็นการแก้ปัญหาฝุ่นควันไฟป่าได้อย่างยั่งยืน