ปราบโรคเหี่ยวพืช ด้วย”ชีวภัณฑ์บีเอส” ชี้ยังไม่มีสารเคมีกำจัดได้

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมวิชาการเกษตร  ผลิตชีวภัณฑ์ BS-DOA 24  ส่งต่อเกษตรกรคุมโรคเหี่ยวในขิง ปทุมมา กระชาย ขมิ้นชัน มันฝรั่ง พริก และมะเขือเทศ  ชี้แบคทีเรียต้นเหตุโรคเหี่ยวอยู่ในดินได้นาน  แถมแอบอาศัยอยู่ในหัวพันธุ์ทำให้เกิดโรคซ้ำหากนำไปปลูก   เตือนไทยมีพืชอาศัยสุ่มเสี่ยงโรคเหี่ยวเพียบ  ยันยังไม่มีสารเคมีป้องกันกำจัด  เผยเอกชนรับลูกขยายผลชีวภัณฑ์แล้ว

      นางสาวเสริมสุข  สลักเพ็ชร์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  โรคเหี่ยวที่เกิดจากแบคทีเรียราลสโตเนีย โซลานาซีเอรัม (Ralstonia solanacearum) จัดเป็นเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคพืชที่มีความสำคัญมากชนิดหนึ่งซึ่งทำให้เกิดโรคเหี่ยวกับพืชมากกว่า 200 ชนิด   โดยความรุนแรงของโรคจะขึ้นอยู่กับชนิดของพืชที่เชื้อเข้าทำลาย  สภาพแวดล้อม  และสายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย  ประเทศไทยมีการปลูกพืชหลายชนิดที่เป็นพืชอาศัยของเชื้อโรคชนิดนี้  ได้แก่ มะเขือเทศ มะเขือเปราะ มะเขือยาว พริก มันฝรั่ง ขิง ขมิ้น ไพล และปทุมมา

      เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้สามารถอาศัยอยู่ในดินได้เป็นเวลานาน  และสามารถเข้าทำลายพืชทางราก  โดยเข้าตามรอยแผลที่เกิดจากการทำลายของแมลง  ไส้เดือนฝอย  รอยฉีกขาดของรากหรือแผลที่เกิดในธรรมชาติ   สามารถแพร่ระบาดไปกับน้ำได้ดีโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกชุกจะมีการระบาดของโรครุนแรงและรวดเร็ว   รวมทั้งเชื้อนี้สามารถติดไปกับหัวพันธุ์โดยแอบแฝงอยู่ในหัวพันธุ์และอยู่ข้ามฤดูได้ เมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสมและปริมาณของเชื้อโรคมากพอ ก็จะแสดงอาการของโรคออกมาโดยเฉพาะเมื่อนำหัวพันธุ์ไปปลูกในสภาพแปลงทำให้เกิดการระบาดของโรคในแปลงปลูก  

        อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  การป้องกันกำจัดโรคนี้ทำได้ยากเนื่องจาก‍แบคทีเรียสาเหตุของโรคสามารถมีชีวิตอยู่ในดินเป็นเวลานานและมีพืชอาศัยกว้าง ปัจจุบันยังไม่มีสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืชที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมโรค   การควบคุมโรคพืชโดยชีววิธีเป็นทางเลือกหนึ่งในการป้องกันกำจัดโรคพืชที่ช่วยลดปัญหาการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่ไม่ถูกต้อง และเป็นที่ยอมรับอย่างมาก

       สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช   กรมวิชาการเกษตร  ได้ศึกษาวิจัยชีวภัณฑ์แบคทีเรียบาซิลัส ซับทีลิส (Bacillus subtilis, BS) สายพันธุ์ BS-DOA 24 ในการควบคุมโรคเหี่ยวที่เกิดจากแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum โดยได้คัดเลือก BS ในธรรมชาติมาทดสอบประสิทธิภาพในห้องปฏิบัติการและในสภาพแปลงได้ผลดีจึงพัฒนาเป็นชีวภัณฑ์แบคทีเรียบาซิลัส ซับทีลิส หรือบีเอส สายพันธุ์ BS-DOA 24 ชนิดผงที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคเหี่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

        ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ  ตรงตามความต้องการของตลาด เกษตรกรสามารถปลูกพืชซ้ำที่เดิมได้  ปัจจุบันได้มีการนำชีวภัณฑ์ไปขยายผลในการใช้ควบคุมโรคเหี่ยวที่เกิดจากแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum ในขิง ปทุมมา กระชาย ขมิ้นชัน มันฝรั่ง พริก และมะเขือเทศ  ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ภาคเอกชนนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์แล้ว

       “วิธีการใช้ให้แช่หัวพันธุ์หรือเมล็ดในสารละลายชีวภัณฑ์บีเอส จำนวน 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เป็นเวลา 30 นาที จากนั้นผึ่งให้แห้งก่อนนำไปปลูก ส่วนในแปลงปลูกหลังปลูกแล้วให้รดด้วยสารละลาย ชีวภัณฑ์บีเอส อัตราส่วน 50 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร รดให้ทั่วแปลงทุก 30 วัน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคเหี่ยว ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมที่กลุ่มวิจัยโรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร. 0-2579-8599” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว