เผยโฉมพริกใหญ่พันธุ์ใหม่ “พิจิตร 2 “เผ็ดน้อย ให้ผลผลิตสูง ทนน้ำขัง เหมาะป้อนโรงงานผลิตซอส

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมวิชาการเกษตร ประสบผลสำเร็จปรับปรุงพันธุ์พริกใหญ่ จนได้พันธุ์ใหม่ “พิจิตร 2”  เผยคุณสมบัติพิเศษทนต่อน้ำขัง ให้ผลผลิตสูงถึงไร่ละ 3,675 กิโลกรัม  ผลใหญ่  เรียว ยาว เนื้อหนา  สีแดงเข้ม  เผ็ดน้อย  ต้นสูงเก็บเกี่ยวง่าย   แถมเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกรุ่นต่อไปได้แทนการซื้อใหม่ทุกปี เหมาสำหรับป้อนโรงงานผลิตซอสพริก 

                                                                              เสริมสุข   สลักเพ็ชร์ 

     นางสาวเสริมสุข   สลักเพ็ชร์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า พริกใหญ่ เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตซอสพริกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีพริกเป็นส่วนประกอบที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 2 พันล้านบาท  และมีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ที่ผ่านมาพริกใหม่ที่ผลิตป้อนโรงงานผลิตซอสพริกนั้น ยังขาดการพัฒนาพันธุ์พริกใหญ่ให้มีปริมาณ และคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด   โดยเฉพาะพริกใหญ่ที่มีรสชาติเผ็ดน้อยซึ่งเป็นพริกที่โรงงานผลิตซอสพริกมีความต้องการผลผลิตเป็นจำนวนมาก 

     ดังนั้นทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร  กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์พริกใหญ่ เพื่อให้ได้พันธุ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่โรงงานผลิตซอสพริกต้องการ คือ ผลสุกมีสีแดงเข้ม เนื้อหนา ผลมีขนาดใหญ่   ยาว และรสชาติเผ็ดน้อย จึงได้มีการปรับปรุงพันธุ์พริกใหญ่เริ่มขึ้นมา โดยเริ่มดำเนินการผสมข้ามพันธุ์ในปี 2540  การคัดเลือกพันธุ์   การเปรียบเทียบพันธุ์กับพันธุ์พริกพื้นเมืองและพันธุ์การค้า  และการทดสอบพันธุ์ทั้งในแหล่งปลูกภายในศูนย์วิจัยของกรมวิชาการเกษตรและแปลงเกษตรกรหลายจังหวัด ที่เป็นแหล่งที่เหมาะสมกับการปลูกพริกเพื่อทำซอสพริก จนประสบผลสำเร็จตามที่ต้องการ

      หลังจากที่ได้การปรับปรุงพันธุ์พริกใหญ่จนประสบความสำเร็จ และผ่านการพิจารณาเป็นพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตรในปี  2562 ใช้ชื่อว่า “พริกใหญ่พันธุ์พิจิตร 2” ซึ่งมีลักษะเด่น คือ ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองของเกษตรกรทั้งในฤดูแล้งและฤดูฝน โดยในฤดูแล้งให้ผลผลิต 3,675 กิโลกรัม/ไร่  ฤดูฝนให้ผลผลิต 1,465 กิโลกรัม/ไร่  มีต้นสูง 78 เซนติเมตร  ซึ่งสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองและพันธุ์การค้าทำให้สะดวกต่อการเก็บเกี่ยว  ที่สำคัญผลมีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด คือ มีขนาดใหญ่เรียวยาว ยาว 11.7 เซนติเมตร  เนื้อหนาเฉลี่ย  1.95  มิลลิเมตร  มีผลยาวกว่าพริกพันธุ์อื่นๆ  ผลมีสีแดงเข้มและเผ็ดน้อย  โดยมีความเผ็ด 26,800  สโควิลล์ซึ่งเหมาะสำหรับนำไปผลิตเป็นซอสพริกตรงกับความต้องการของโรงงาน

       “พริกใหญ่พันธุ์พิจิตร 2 เป็นพันธุ์ที่มีความทนทานต่อสภาพน้ำขัง และสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าพันธุ์อื่นๆ   รวมทั้งยังเป็นพันธุ์ผสมเปิดทำให้เกษตรกรสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อใช้ปลูกในรุ่นต่อไปได้แทนการใช้พันธุ์ลูกผสมที่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ใหม่ทุกปี  ซึ่งราคาเมล็ดพันธุ์ลูกผสมที่เกษตรกรซื้อในปัจจุบันจะมีราคาประมาณ 37,500 บาทต่อกิโลกรัม   โดยเกษตรกรจะใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 30-40 กรัมต่อไร่  จากการประเมินความพึงพอใจของเกษตรกรในจังหวัดนครสวรรค์ สุโขทัย แพร่ และ อุทัยธานี พบว่าเกษตรกรมีความพอใจพริกพันธุ์ใหญ่พิจิตร 2 มากที่สุดในด้านความสูงของต้นที่ทำให้สะดวกต่อการเก็บเกี่ยว  และความทนทานต่อความแปรปรวนของสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะเมื่อฝนตกหนักและมีน้ำท่วมขัง  ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์พริกใหญ่พิจิตร 2 ได้ปีละ 10 กิโลกรัม/ปี  ซึ่งเพียงพอสำหรับพื้นที่ปลูกจำนวน 300 ไร่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว