สภาเกษตรกรฯจับมือทนายแผ่นดินร่วมให้ความรู้เกษตรกรที่จะปลูกสมุนไพร-พืชเสพติด

  •  
  •  
  •  
  •  

สภาเกษตรกน จับมือสำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด ลงนามว่าด้วย การพัฒนา และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับองค์ความรู้ด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับพืชสมุนไพร และพืชเสพติดเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ หวังสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร และองค์กรเกษตรกร ที่จะเพาะปลูกพืช การป้องกันรักษาโรคด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมายกร

           ว่าที่ร้อยตรีสมพูนทรัพย์  กล้าวิกรณ์ เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับองค์ความรู้ด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับพืชสมุนไพร และพืชเสพติดเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์” กับสำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด โดย นางชนิญญา ชัยสุวรรณ อธิบดีอัยการ ณ ห้องรวงข้าว 204 ชั้น 2 คณะเกษตร อาคารวชิรานุสรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ   โดยมีนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ร่วมเป็นพยาน

           นายประพัฒน์ กล่าวว่า อัยการคือทนายแผ่นดิน เกษตรกรเป็นประชาชนที่อยู่ฐานรากของสังคมไทย ซึ่งปกติเวลาเกษตรกรในชนบทมีคดีความส่วนใหญ่จะแพ้คดีเพราะไม่มีทนายที่ดีมาสู้คดีให้ได้ หากว่าเกษตรกรได้ทนายของแผ่นดินมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงก็เชื่อมั่นได้ว่า สามารถที่จะสร้างให้มีความสมดุลในสังคมมากขึ้น อย่างน้อยที่สุดเกษตรกรเองก็มีที่พึ่งที่ปรึกษา ดังนั้นการบันทึกความร่วมมือครั้งนี้เกษตรกรทั่วประเทศทุกคนจะได้ทราบว่าทนายแผ่นดินพร้อมจะเป็นที่พึ่งให้กับเกษตรกรในเรื่องคดีและเรื่องการพัฒนาอาชีพพร้อมกันไปด้วย

        ด้าน ว่าที่ร้อยตรีสมพูนทรัพย์ กล่าวว่า สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญและเจตนารมณ์แห่งกฎหมายยาเสพติดให้โทษ เกี่ยวกับองค์ความรู้ที่ถูกต้องด้านกระบวนการต่างๆเกี่ยวกับการผลิต การครอบครอง การจำหน่าย การนำเข้า และการส่งออก จึงเห็นสมควรขับเคลื่อนความร่วมมือร่วมกันอย่างเป็นระบบ

          ทั้งนี้เพื่อร่วมมือกันพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและองค์กรเกษตรกร ในการสร้างโอกาสที่ดีทั้งในด้านการประกอบสัมมาชีพเกี่ยวกับเกษตรกรรมการด้านเพาะปลูก และการป้องกันและรักษาโรคโดยภูมิปัญญาท้องถิ่นและชุมชน รวมทั้งองค์ความรู้เกี่ยวกับปราชญ์ชาวบ้านที่ถูกต้องตามกฎหมาย และยังเป็นการป้องกันการกระทำความผิดตามกฎหมาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือการมิให้ตกเป็นเหยื่อหรือผู้เสียหายหรือเป้าหมายในการถูกนำไปเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์หรือการหลอกลวงในด้านต่าง ๆ เป็นต้น จึงนำมาซึ่งการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับองค์ความรู้ด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับพืชสมุนไพร และพืชเสพติดเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์” ดังกล่าวขึ้น

  

             ขณะที่ นางชนิญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นวันที่น่าภาคภูมิใจที่ 2 หน่วยงานซึ่งรับผิดชอบงานคนละส่วน สำนักงานอัยการสูงสุดรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องคดีความ ความทุกข์ความร้อนของแผ่นดิน ในขณะเดียวกันเกษตรกรคือชนกลุ่มใหญ่ที่สืบทอดมาจากบรรพชน ที่ทราบดีว่าทุกข์ร้อนของเกษตรกรก็คือทุกข์ร้อนของแผ่นดิน รัฐบาลทุกคณะทุกชุดรวมทั้งสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องสำเหนียกและพยายามช่วยเหลือเมื่อเกษตรกรอยู่รอดปลอดภัยบ้านเมืองก็อยู่รอดปลอดภัยด้วย  แต่หากเมื่อไหร่ที่เกษตรกรมีความทุกข์ทน บ้านเมืองก็ทุกข์ทนด้วยเช่นกัน 

“สำนักงานคดียาเสพติดมีความภาคภูมิใจที่เข้ามาร่วมทำงานกับสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยที่เราจะร่วมทำงานจากจุดเล็กๆก่อนเกี่ยวกับเรื่องพืชยาเสพติดที่เราจะพัฒนาให้เป็นยาให้เป็นพืชเศรษฐกิจสำหรับเกษตรกร  ในขณะเดียวกันเราก็จะจับมือร่วมกันทำในสิ่งที่มากกว่านี้อีกในเรื่องเกี่ยวกับความทุกข์ร้อนของเกษตรกรในด้านอื่นๆต่อไปด้วย” นางชนิญญา กล่าว