ในงานเปิดตัวเปิดตัว “ดาวดวงใหม่ ผลไม้แปลงใหญ่ โกอินเตอร์” ที่ห้องประชุมกรมส่งเสริมการเกษตร เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา มีสับปะรดหลายสายพันธุ์ที่ถูกจัดมาให้ชิม หนึ่งในที่คนแห่กันชิมจำนวนมากคือ “พันธุ์ภูชวา” บรรดาผู้ที่ได้ชิม ต่างบอกว่ารสชาติอร่อยมาก หวานฉ่ำตามด้วยเปรี้ยวนิดนิดๆ เหมาะกับคนไทยและคนเอเซียทั่วไปโดยเฉพาะจีน นับเป็นไม้อีกชนิดหนึ่งที่เกษตรกรปลูกในโครงการเกษตรแปลงใหญ่ ที่ภาครัฐจัดอยู่ในประเภทผลไม้ “ดาวดวงใหม่ ผลไม้เกษตรแปลงใหญ่” และกำลังส่งเสริมให้มีการส่งออก
อานนท์ โลดทนงค์ รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และรองเลขาธิการสมาคมชาวไร่สับปะรดไทย ผู้ซึ่งคลุกคลีอยู่กับวงการสับปะรดมายาวนาน บอกว่า สับปะรดพันธุ์ภูชวา มีการปรับสายพันธุ์และขึ้นทะเบียนมานานพอสมควรแล้ว เป็นสับปะรดกินผลสดที่มีรสชาติหวานฉ่ำอมเปรี้ยวนิดอร่อยมาก ถูกปากถูกคอคนไทยและจีน แต่มีปัญหานิดหนึ่งคือโรคไส้ดำ ซึ่งที่ผ่านมาปลูกไม่เยอะนักเนื่องจากเกษตรกรไม่แน่นใจด้านตลาด ถ้าภาครัฐให้มีการส่งเสริม อย่างปัจจุบัน ถือว่าเป็นสับปะรดที่มีอนาคนเพียงแต่ต้องปรับปรุงเล็กน้อยเท่านั้น (รายละเอียดในคลิป)
อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลระบุว่า “สับปะรดภูชวา” เป็นสายพันธุ์ลูกผสมเบอร์ 6 (Hybrid No.6) หรือ K.U. SAICO 6 เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ระหว่างพันธุ์แม่คือพั นธุ์ปัตตาเวีย (Smooth Cayenne) กับพันธุ์พ่อคือพันธุ์ภู เก็ต (Queen) ใช้เวลาในการพัฒนาสายพันธุ์รวม 12 ปีโดยนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ร่วมกับพนักงานฝ่ายการเกษตรของบริษัทสยามอุตสาหกรรม (สับปะรดและอื่นๆ) จํากัด (มหาชน) แล้วนํามาคัดเลือกสายต้นต่อที่ A.S. Farm จนได้เป็นพันธุ์ลูกผสมเบอร์ 6 ชื่อพันธุ์ “ภูชวา”เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเมื่อวันที่ 1 ธั นวาคม 2553 มี ความหมายว่าภูเขาสีทองปัจจุบั นได้ทําการขยายพันธุ์เพิ่มจํานวนเหมาะสําหรับเป็นสับปะรดบริโภคสด
i
ลักษณะคือลําต้นแข็งแรงเหมือนสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียแต่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย น้ำหนักเฉลี่ย 2.5 กิโลกรัม ใบสีของใบเหมือนพันธุ์ปัตตาเวียทั่วไปมีหนามเล็กน้อยที่ปลายใบเท่านั้น ผลรูปทรงผลทรงกระบอกยาวน้ำหนักผล (เฉลี่ย) 1.36 กิโลกรั มเส้นผ่าศูนย์กลางผล 12.5 เซนติเมตรลักษณะตาเล็กแบนราบจุกค่อนข้างใหญ่มีรอยคอดเล็กน้อยสีเนื้อเหลืองอ่อน เนื้อแน่นไม่มีโพรงไม่กรอบเนื้อละเอียด